30 กรกฎาคม 2554

ไปเรียนเย็บซะที...ดีจัง :D

จากบล็อคที่แล้ว  เอ็มกะว่าจะพยายามเข็น How-To กระเป๋าตังค์เมี๊ยวๆ ออกมาให้ได้   แต่ตอนนี้ขออนุญาตเปลี่ยนใจเพราะกระเป๋าใบเดิมที่ทำ....  ทุกขั้นตอนเอ็มอ่านจากวิธีทำและแพทเทิร์นในชุด kit แล้วด้นทำเองค่ะ


พอเอาชุด kit น้องเหมียวอีกอันนึง (ชุดนี้ก็ได้เื่พื่อนม้อยสอยมาให้เหมือนเดิมค่ะ) ไปทำที่ Sewing Lover Club ของบูธจักรเอลน่า/จาโนเม่แล้ว   เอ็มก็ได้เทคนิคที่จะช่วยทำให้ชิ้นงานสวยเรียบร้อยขึ้นไปอีก   ทีนี้ เอ็มเลยตัดสินใจว่าคงไม่ทำ How-To กระเป๋าตังค์เมี๊ยวๆ ใบเดิมแล้วล่ะ   มาเริ่มที่ใบใหม่ (ขอเรียกว่ากระเป๋าน้องเขี้ยว) ดีกว่า  คนที่ได้ผ่านมาอ่าน How-To  ก็จะได้รู้วิธีทำที่ดีกว่าอันเดิมที่เอ็มโม่ด้นเองนะคะ :)


พูดมายาว  ที่จริงกระเป๋าใบใหม่ก็ยังทำไม่เสร็จ แหะ แหะ :P


เพียงแต่ ตอนนี้ เจ้าส่วนชิ้นงานแบบที่ทำใหม่ขึ้นมามันสามารถเอามาเปรียบเทียบได้แล้วค่ะว่าการใช้เทคนิคที่เค้าสอนมันทำให้งานสวยขึ้นขนาดไหน  เอ็มเลยเอารูปมาเปรียบเทียบให้ดูกันแบบชัดๆนะคะ



จากรูป  วิธีทำแบบที่เค้าสอน  (คือ Appligue เสร็จแล้วเซาะร่อง -หมายถึงเจาะผ้าชิ้นหลัง ชิ้นก่อนซับใน/ใยโพลีฯทิ้งอ่ะค่ะ  จะทำให้ชิ้นงานมีมิติขึ้นมากๆ  โดยเฉพาะถ้าควิลท์รอบงานอีกที)





อีกวิธีที่เอ็มอยากทำให้ได้  คือทำยังไงให้ชิ้นงานได้รูปค่ะ  อย่างตรงปากเหมียว  เราอยากให้ชิ้นงานมันกลม  เอ็มสอยยังไง  พยายามแล้วพยายามอีกก็ยังไม่กลม.....วิธีทำมันง่ายกว่าที่เราคิดเยอะค่ะ  คือ  เค้าใช้วิธีเนารอบแบบ  ใส่แพทเทิร์นที่ตัดไว้ (เป็นพลาสติคแบบอ่อน/กระดาษแข็ง)แล้วเนารูดรัดให้ได้ทรงตามต้องการแล้วรีดให้เรียบ  นำมาสอย   ทีนี้ก็ออกมากลมดิ้กอย่างใจเลยค่ะ ---เป็นวิธีแบบ English Paper Piecing ตรงนี้ เดี๋ยวเอ็มจะถ่ายรูปมาให้ดูจะได้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ)





ดูกันชัดๆว่าชิ้นปากเหมียวที่สอยติดลงไปมันนูนออกมา...น่ารักดีค่ะ  ปลื้มๆ :D



 หนึ่งวันที่นั่งเรียนอยู่  ทำไปได้เท่านี้เองค่ะ...ไว้ประกอบชิ้นงานสำเร็จจะรีบรีบเข็น How-To พร้อมภาพประกอบมาฝากกันนะคะ :D



หมายเหตุ(ดังๆ)  ขอบคุณเพื่อนม้อยมากที่พยายามบอกหลายทีเลยว่าให้เอ็มไปเรียน (ซะที)  และก็ขอบคุณสำหรับชุด kit อีกครั้งด้วย  ^__^

21 กรกฎาคม 2554

กระเป๋าตังค์เมี๊ยว เมี๊ยว ...เดี๋ยวตังค์ก็เข้ามา :D



ไม่ได้อัพบล็อคหลายวัน  แต่ทำงานเย็บเสร็จไปแค่ชิ้นเดียว (เล็กๆ) -___-'

เนื่องจากเมื่อต้นเดือน เพื่อนม้อยไปงานสหพัฒน์ฯมาแล้วมีน้ำใจสอยเอาชุดคิทกระเป๋าตังค์แมวเหมียวในงานมาฝากให้เอ็มโม่ (ฝากมาสามอัน เพิ่งทำเสร็จไปอันเดียว แหะ แหะ)

พอเรารับมาก็รีบปฏิบัติหน้าที่อันพึงมีคือ เย็บ เย็บ เย็บ ....  งานนี้เย็บๆเลาะๆค่ะ   ไม่ค่อยอยากรีบและอยากหัดทำให้ได้ดังใจเยอะๆมากกว่า


ในที่สุด  ใช้เวลาเย็บบ้าง เล่นเน็ตบ้าง ทำงานบ้านบ้าง...เป๋าเหมียวก็เสร็จ  วู้ฮู้ :D


เอ็มเอามารูปที่เย็บเสร็จแล้วมากแปะตัวไว้ก่อนนะคะ  เดี๋ยวจะทำ how to (วาดเอา) มาฝากกันอีกที


เป๋าเหมียว :>






เก๋ไก่ด้วยตัวห้อยคิดตี้ ...แต่อันนี้เพี้ยนไปหน่อยเพราะเอ็มทำห่วงคล้องคิตตี้หักค่ะเลยต้องเย็บตัวห้อยซิปด้วยผ้าแทนแล้วเอาคิตตี้มาทากาวตกแต่ง




ผ้าทอนี่มันน่าใช้จังเลยน้าาาา




เอิ่ม มุมซ้ำ  เอาเป็นว่าดูที่ซิปแล้วกันนะคะรูปนี้ อิอิ




applique ยังไม่เนี้ยบค่ะ  ฝึกกันต่อไป ไอ้มดแดง(อ้วน)




มีเพื่อนใน FB บอกว่าตัวนี้เหมือน Totoro ค่ะ  เอ็มว่าหน้าเค้าดูเหวี่ยงๆเหมือนรถบัสแมวมากกว่า :P

13 กรกฎาคม 2554

รักนะแต่ก็ไม่ค่อยดูแล :P

ตั้งแต่เริ่มทำงานฝีมือมาเข้าเดือนที่สอง...ความรู้สึกที่มีกับมือใหญ่คู่นี้ของตัวเอ็มโม่เองเริ่มเปลี่ยนไปค่ะ

สมัยเด็กๆ เอ็มจะไม่ชอบมือของตัวเองเลยเพราะมันทั้งใหญ่ หนา นิ้วก็ทู่ๆู ดูแล้วเหมือนมือผู้ชาย  ยิ่งอ่านตำราอ่านลายมือยิ่งไม่ชอบมือตัวเองเข้าไปอีกเพราะหนังสือบอกว่าคนที่มีดวงชะตาโตไปทำงานศิลปะจะมีมือที่เรียวยาว  เราก็ชอบวาดรูปเล่น  ไม่เห็นมือมันจะเรียวเล๊ยยย ไหงดูเป็นมือพี่กรรมกรอย่างนี้นะ >_<')

ช่วงที่เริ่มชอบมือตัวเองก็คงเป็นช่วงอายุยี่สิบกลางๆ แล้วค่ะ เพราะเพื่อนพูดให้ได้ยินบ่อยๆว่าเรามือนิ่มดี  (เนื้อมันเยอะเลยจับแล้วเหมือนจะนิ่ม)  แถมเวลาหยิบจับอะไร เราก็มีมือที่แข็งแรงบึกบึนแบบที่ผู้ชายยังขอให้ช่วยเปิดขวดนำ้อัดลมให้  ตั้งแต่นั้น เราก็รู้สึกว่า เออเว๊ย...มือใหญ่แข็งแรงก็ดีนะ  รักและขอบคุณมือคู่นี้จังเลย


แต่ก็นั่นล่ะค่ะ  รักแต่ก็ไม่ค่อยดูแล -..-'


ครีมทามือยี่ห้อที่โฆษณาตามทีวี  เราก็ไม่ค่อยจะชอบกลิ่น  แถมทาไปก็รู้สึกว่าครีมมันไม่ค่อยชุ่มชื้นเท่าไหร่   ไอ้ยี่ห้อที่ไปลองแล้วชอบก็หลอดละห้าร้อยบาทขึ้น...รู้สึกว่าแพงจังสำหรับคนทรัพย์ไม่เยอะอย่างเรา  

ทางออกเรื่องนี้สำหรับคนไม่ดูแลตัวเองอย่างเราก็คือ "ไม่ทา" มันซะอย่างนั้น


พอนั่งทำงานฝีมือ  มันก็เหมือนเราได้นั่งดู นั่งสัมผัสมือตัวเองอยู่ทุกวันไปพร้อมๆสัมผัสผ้าค่ะ  ...ทีนี้เลยเกิดอาการสำนึกได้ว่าดูแลมือไม่พอแถมยัง "กลัวมือเหี่ยว" ขึ้นสมองน่ะสิคะ  (ที่จริงมันก็เหี่ยวไปบ้างแล้วล่ะค่ะ  ปาเข้าไปสามสิบกว่าแล้ว  จะมือจึงเปรี๊ยะอยู่ได้อย่างไร หุ หุ)


หลังจากนึกบ่นในใจไปได้สองสามวัน  เอ็มโม่ก็ไปเจอของดีที่บ้านแม่



แฮนด์ครีมหลอดนี้มีดีที่กลิ่นค่ะ  เค้าโฆษณาว่าเป็นสูตรมะเฟืองและมะยม  แหม...ช่างเข้ากับแม่นางกุลสตรีสมัยรัตนโกสินทร์อย่างเรายิ่งนัก หุ หุ  

กลิ่นหอมของครีมจะหอมคล้ายๆกลิ่นมะนาวอ่อนๆเคล้าด้วยกลิ่นมะยมมะเฟืองอยู่จางๆค่ะ  ไม่ฉุน  และผู้ชาย (รุ่นดึกอย่างป๊ะป๊าของเอ็มโม่) ชอบ อิอิ

เนื้อครีมก็เข้มข้นดีแต่ไม่เหนอะเหนียวติดมือ  การันตีได้จากการทาครีมแล้วเย็บผ้าต่อ  ไม่้มีปัญหาเข็มลื่นทิ่มมือ ;p

ครีมนี้ขายในร้าน Boots นะคะ  จำราคาไม่ได้ว่าเท่าไหร่แต่จำแม่นว่าไม่แพง


ของดี ราคาซื้อหาได้ไม่ระคายกระเป๋าแบบนี้ต้องบอกต่อ....เอ็มขอชวนใช้ ชวนใช้นะคะ :>

5 กรกฎาคม 2554

เย็บ เย็บ เย็บ : ซองใส่เครื่องเขียน

เหตุจากหนังสือเล่มนี้

"เย็บ ปัก ถัก วาด" ของ สนพ.บ้านและสวน  ในเล่มมีของน่าทำหลายชิ้น  ไว้วันหลังจะเอามารีวิวนะคะ

พลิกๆดู...เอ  เราจะทำอะไรดีนะที่เอามาใช้ได้ด้วย   เปิดดูไปเรื่อยๆ  โอ๊ะ  งานชิ้นนี้น่าลองทำค่ะ


แบบเก๋กู๊ด ดูมีสกุลรุนชาติมากด้วยผ้าธรรมชาตินะคะ  แบบนี้จะให้สัมผัสที่ดีและอ่อนโยนต่อความรู้สึกของคนใช้ค่ะ  แต่ถ้าไม่มีผ้าตามนี้ก็อย่าไปเครียด...ลองจับคู่ผ้าตามที่เรามีเอานะคะ


ในหนังสือ  เค้าทำงานชิ้นนี้ไว้สำหรับใส่อุปกรณ์ถัก เช่น เข็มโครเชต์หรือเข็มนิตติ้ง   แต่เราทำงานถักไม่เป็นก็ต้องปรับไปใช้เป็นที่เก็บเครื่องเขียนแทน 

ดูๆรื้อๆผ้าแล้ว  เอ็มก็เลือกผ้าสองชิ้นนี้มาทำค่ะ  อาจจะไม่เหมือนแบบในหนังสือ  เดี๋ยวลองมาดูกันนะคะ

เอ็มเลือกสีอ่อนเป็นชิ้นใน  แล้วเอาสีเข้มเป็นชิ้นนอก  จะได้ไม่เลอะง่ายค่ะ


ต่อไปก็ของที่ต้องใช้นะคะ ดูตามภาพได้เลยค่ะ (คลิ้กไปดูภาพจะขยายเห็นชัดนะคะ)




เอ็มลงให้ดูพอจะนึกภาพได้ว่า  ถ้าชิ้นงานแบบนี้จะต้องใช้ผ้าเท่าไหร่นะคะ  แต่ขออนุญาตไม่ลง how-to แบบละเอียด  เพราะเอ็มทำตามหนังสือที่หาซื้อได้ง่ายในเมืองไทยนี่ล่ะค่ะ  ถ้าจะเอามาโพสท์บอกต่อกันแบบนี้ก็เกรงใจสำนักพิมพ์  (กลัวติดคุกก็ด้วยส่วนหนึ่ง ฮ่าๆๆๆ)

ลองดูวิธีทำแบบคร่าวๆ ละกันนะคะ


ก่อนอื่น  ทำแพทเทิร์นด้วยกระดาษแข็งไว้ก่อนเพื่อความสะดวกในการตัดผ้า (แต่งานนี้ ไม่ยุ่งยาก  จะไม่ทำแพทเทิร์นก่อนก็ได้ค่ะ)  เสร็จแล้วตัดผ้าตามแบบ
 


จากนั้น   ...ประกบผ้าด้านผิดของชิ้น B แล้วเย็บเข้าด้วยกัน  เว้นช่องกลับผ้าไว้ประมาณ 5 ซม.ค่ะ  พอกลับผ้าแล้วก็สอยปิด แล้วก็สอยลูกไม้ (ชิ้น F) ตกแต่งให้เรียบร้อย  

ตอนนี้เราก็จะได้ชิ้นงาน B แบบสมบูรณ์ค่ะ   ชิ้น C ก็ทำแบบเดียวกัน  เสร็จแล้วแล้วเอามาเย็บประกอบชิ้นงานตามนี้นะคะ  (ชิ้น C ต้องเย็บหัวท้ายเป็นช่องๆขนาดพอเสียบปากกาได้ค่ะ)


เอ่อ  เอ็มวาดไม่ค่อยจะได้เรื่อง...ต้องใช้จินตนาการกันหน่อยล่ะนะคร้าบบบ

 ประกอบชิ้นงานเสร็จ  ก็เอาผ้าชิ้นนอกมาเย็บประกบกับชิ้นในและแผ่นโพลีเอสเตอร์และตัวสายคล้อง (ชิ้น E) นะคะ 

เสร็จแล้วจะหน้าตาแบบนี้ค่ะ



ปิดท้ายด้วยการสอยกระดุมไว้สำหรับคล้องห่วงสายหนังหรือเทปลูกไม้ที่เราเย็็บไว้ก่อนหน้านี้   ก่อนจะเย็บกระดุม  ให้ลองทบชิ้นงานประกบกันดูระยะเย็บที่ถูกต้องก่อน





ลองดูแบบที่เสร็จสมบูรณ์นะคะ แต่น แตน แต๊น



งานนี้ รายละเอียดไม่จุกจิก  ถ้าลงมือทำแบบเต็มที่ก็ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จค่ะ  (เอ็มโม่ซึ่งเป็นเ้ด็กหัดเย็บผ้าทำได้  เชื่อว่าคนที่ชอบเย็บผ้าหรือทำงานฝีมือก็ต้องทำได้แน่ๆเหมือนกันค่ะ)


แต่ขนาดตามในหนังสือ  เค้าทำไว้สำหรับใส่เข็มนิตติ้งอันยาวๆ   มันเลยใหญ่ไป ใส่กระเป๋าผู้หญิงขนาดใบย่อมๆไม่ได้  ถ้าไม่ได้ทำไว้ใส่เข็มยาวๆอย่างเข็มนิตติ้ง  ลองปรับลดขนาดความยาวลงเหลือสองในสามก็พอนะคะ

ดูแบบแล้ว  ถ้านึกสนุกอยากทำ  ก็ขอให้ Enjoy sewing กันนนะคร้าบบบบ :D