29 ธันวาคม 2554

จะเก็บเงินให้ได้เยอะๆภายในปีหน้า..คอยดู๊

ปีใหม่จะมาถึงแล้ว  สิ่งที่มุ่งมั่นตั้งใจให้ดีๆเรื่องนึงคงไม่พ้นเรื่องเงินค่ะ

เมื่อสองปีก่อน  เอ็มโม่ต้องขอบคุณหนังสือเล่มนี้ ...ขอบคุณ คุณ Kyoko Ikeda ที่เขียน/วาดหนังสือเล่มนี้ด้วยว่า แหม เรื่องคุณเคียวโกะนี่มัน (โคตร) ตรงกับอิฉันเลยค่ะ



เอ็มโม่ทำงานมาสิบห้าปีได้  เงินเดือนก็โอเคนะแต่ไม่เคยเก็บเงินได้  วินัยการใช้บัตรเครดิตก็แย่จนถึงขั้นเลวร้าย   ดีที่ไม่เจอปัญหาหนักหน่วงแบบรับมือไม่ไหว


แต่ยังไงการเงินเรามันก็แย่อยู่ดี  :(


อืมม์...แล้วจริงๆ  อิฉันก็ว่าคงมีหลายคนเป็นเหมือนอิฉันนี่แหล่ะ ฮ่าๆๆๆ (หาพวก)


เพราะงั้น  เรามาฮึดกันเถอะค่ะ  ชูแขนขึ้นให้สุด  กำหมัดไว้ให้แน่น  เชิดหน้าเอาไว้  พยักหน้าหงึกหงักกับตัวเองว่าคราวนี้ตรูจะสู้ตาย (กะตัวเอง)  จะเก็บเงินให้ได้เยอะๆภายในปีหน้าที่จะมาถึงกันเถอะค่ะ


เอ้า  ฮุยเลฮุย  เอ๊ยยย  ไม่ช่ายยย  เราแค่ลองมาฮึดตามหนังสือเล่มนี้กันดีกว่า


ที่จริงเรื่องที่คุณเคียวโกะแนะ  เอ็มโม่เชื่อว่าทุกคนก็รู้อยู่แต่แหม มันทำไม่ได้นี่นา  เห็นของน่ารักๆ เราก็มือไม้อ่อนทุกทีอยากจะรูดปรื๊ดๆ


ลองมาอ่านหนังสือเล่มนี้ดูนะคะ  เพราะถ้าอ่านไปเรื่อยรับรองว่ามันทิ่มค่ะ มันทิ่มแทงใจว่าเราน่ะเป็นอย่างงี้เลย  อย่างหน้าที่เอามาเป็นตัวอย่างนี่  อ่านไปก็นึกว่า อ้าว เฮ้ย...ในเรื่องนี่มันตรูนี่หว่า >_<



อาการเหงื่อตกตอนมารู้ว่าที่แท้แล้วเราเหลือเงินสดเท่าไหร่นี่มันใช่เลย  อาการดี๊ด๊าซื้อนู่นนิดนี่หน่อยจนเหยียบไปเป็นหลักพันก็บ่อยมันก็เราเอง


เอ็มโม่เองลองใช้วิธีเก็บเงินแบบพื้นฐานมากๆ  ตามในหนังสือนี้แล้วได้ผลนะคะ  วิธีง่ายๆค่ะ  แค่นี้เอง



แยกเงินแบ่งเป็นซองไว้  ของเอ็มโม่แบ่งเป็น 3 ซองอย่างนี้ค่ะ 

1. ซองเงินใช้จ่ายรายเดือน  ---หลังหักเงินฝากประจำตามที่ตั้งใจเข้าธนาคารแล้ว  แบ่งเงินใช้จ่ายรายเดือนออกเป้นซัก 3-4 งวด
2. ซองเงินบัตรเครดิต---รูดอะไรไป ดึงเงินสดจำนวนตามนั่นมาเก็บไว้ในซองเลย  เก็บไปให้พ้นหูพ้นตา
3. ซองเงินเฉพาะกิจ --- ใครจะรู้ว่าเราจะเกิด"ภาวะฉุกเฉิน" เมื่อไหร่   ซองนี้ไม่ใช่เงินเก็บแต่ควรเก็บประจำทุกเดือน  ห้ามเอามาใช้ ยกเว้น "ภาวะฉุกเฉิน" จริงๆแบบที่ไม่ใช่จะซื้อกระเป๋าเซลล์ 70% แล้วตังค์ไม่พอก็เลยต้อง "ฉุกเฉิน" เอาเงินจากซองนี้มาใช้นะคะ   ของเอ็ม...ซองนี้จะเก็บตังค์ที่ cash back จากบัตรเครดิตไว้ในนี้ด้วย   ทำลืมๆแป๊บเดียว โอ้โห ได้หลายบาทเลยค่ะ

โปรดสังเกตว่าซองนี้จะเยินเป็นพิเศษ หุ หุ


ข้อสำคัญหลักๆที่ต้องทำอีกข้อ คือ การทำบันทึกค่าใช้จ่ายโดยละเอียดทุกวันค่ะ  จะบันทึกลงสมุดก็ได้  แต่ก่อนนี้เอ็มโม่ก็ใช้วิธีนั้น  แต่เดี๋ยวนี้ อิฉันมีสมาร์ทโฟนแย้วววว   เลือกแอพลิเคชั่นจัดการเงินที่ถูกใจมาใช้บันทึกเลยค่ะ  ของเอ็มใช้แอพฯ  Expense Manager  เพราะมันเบสิคแต่ก็เหมาะกะเราค่ะ  มันละเอียด  แยกหมวดหมู่ค่าใช้จ่าย...พอสิ้นเดือน ลองเช็คสิคะว่าใช้ตังค์ไปกับอะไรมากที่สุด  หุ หุ หุ ของเอ็มนี่ชนะเลิศคือหมวด Leisure ค่ะ  เศร้าจิตเจรงๆ

ลองดูหน้าตาของแอพฯนี้นะคะ



เคล็ดลับอย่างนึงในการทำแบบนี้ให้ต่อเนื่องคือ  เราก็เลือกใช้สมุดจด หรือซองน่ารักๆ  เวลาหยิบมาใช้ก็มีความสุข   ของเอ็มที่เห็นข้างบนนั่นก็เป็นซองทำเองค่ะ  ปริ้นท์ภาพที่ชอบลงกระดาษรีไซเคิลแล้วพับเป็นซองติดเทปกาวง่ายๆ  เป็นอันเสร็จพิธี 

อ๊าาา   ในที่สุด  เราก็เข้าเรื่อง D.I.Y. ได้สำเร็จสมเจตนาที่ทำ blog นี้ อิอิ :P


คนที่สนใจลองหาหนังสือเล่มนี้อ่านนะคะ  น่าจะโดนใจหลายคนอยู่  ปกจริงสีสดแจ่มกว่าในรูป และมีออกมาหลายตอนเลย  หนังสือชุดนี้พิมพ์โดย สนพ. Inspire ค่ะ   ราคาเล่มละ 115 บาท  แต่ถ้าทำตามนี้ได้  โฮะๆๆๆ   เงินเก็บเป็นแสนเป็นล้านก็ทำได้แน่ๆคร้าบบ

ขอให้ทุกคนแฮปปี้กับบัญชีเงินฝากในปีที่จะถึงนะคะ ^___^

13 ธันวาคม 2554

How-To ง่ายๆ : กระเช้าไวน์แถม napkin :>

วันนี้ขอเอา How-To ง่ายๆ (อีกแล้วเพราะยากทำไม่เป็นค่ะ อิอิ) มาฝากกันค่ะ

สำหรับคนที่อยากมอบของขวัญปีใหม่เป็นไวน์ละก็  เรามีวิธีทำกระเช้าไวน์หลายแบบนะคะ  บางคนก็ประดับผลไม้ไปสวยๆดูสดชื่นน่ากิน  บางคนก็เป็นไวน์กับกระเช้าหนังเท่ๆ แล้วแต่ว่าเราจะให้ใคร


เอ็มโม่มาคิดๆดูนะคะ  ถ้าเราไม่ประดับผลไม้ในกระเช้าล่ะ  เราจะใช้อะไรแทนดีนะที่ให้ไปแล้ว  คนรับก็เอาไปใช้ประโยชน์ได้นาน (และก็ดูดีกว่าหิ้วไวน์ไปฝากเฉยๆ)


เอ็มโม่คิดถึงของเหล่านี้ค่ะ  ...ผ้าเช็ดปาก  (ไม่เอา napkin ที่เอาไปทำเดคูพาจนะคะ  อันนั้นถ้าเราใช้ในกระเช้าแล้ว  คนรับคงไม่ใช้ต่อแน่)   และที่รัด/คล้องผ้าเช็ดปาก  กระเช้า



  

เอ็มโม่มีผ้าเช็ดปากของ Jim Thompson ที่ซื้อเก็บไว้ตอนเซลล์อยู่เลยเอามาเป็นตัวอย่างค่ะ ส่วนที่รัด/คล้องผ้าไม่มี เลยเอาแหวนใหญ่มาแทนแก้ขัดเป็นตัวอย่างนะคะ :P


เริ่มแรก  รองกระเช้าด้วยเซ็ตผ้าเช็ดปากที่เราจะมอบให้  ถ้าเราเกรงว่าเค้าจะไม่ชอบของที่แกะออกจากห่อแล้ว  เราจะรองไปทั้งแพ็คเกจของผ้าเช็ดปากก็ได้ค่ะ แล้วใช้ผ้ารองจานที่เข้าชุดกันปูรองกระเช้าตามนี้

กระเช้าสีโอ๊คเข้มน่าจะช่วยให้ดูหรูหรากว่านะคะ  พอดีที่บ้านไม่มีเลยใช้ใบนี้แทนไปก่อน



 ทีนี้เราก็เอาผ้าเช็ดปากมาผูกเป็นเหมือนผ้าพันคอให้ขวดไวน์  แล้วคล้องด้วยที่รัดผ้าแบบนี้ ^ ^
ในรูปนี้ เอ็มโม่เอาแหวนมาแปลงกายใช้แก้ขัดแทนที่รัดผ้าเช็ดปากนะคะ

ออกมาหน้าตาแบบนี้คร้าบบ   (ใครไม่อยากทำกระเช้าจะทำแค่ขั้นตอนนี้ก็ได้นะคะ)

ไวน์ในตัวอย่างเป็นไวน์ชิลีราคาสามร้อยกว่าบาทเองนะฮับ อิอิ  ตอนให้จริงก็เลือกกันเองนะคะว่าคนรับชอบไวน์แบบไหน

แล้วเราก็ใส่ลงในตะกร้า ...พร้อมหิ้วต่อไปมอบเป็นของขวัญเลยค่ะ   เราอาจจะใส่ที่รัด/คล้องผ้าเช็ดปากที่เข้าชุดไปในกระเช้าเพิ่มก็ได้นะคะ   ทีนี้ของขวัญชิ้นนี้ก็จะใช้ได้นานและไม่เสียของโดยเปล่าประโยชน์เลยค่ะ :)



ป.ล.  ถ่าย How-To คราวนี้ แสงน้อย...ย้ายไปถ่ายหลายมุมมาก ทั้งบนโต๊ะ บนตู้ บนพื้นข้างหน้าต่าง ขออภัยด้วยนะคะท่านผู้ชม :P

7 ธันวาคม 2554

แปลงร่างโคมไฟเก่ามาเป็นเป็นยันต์เรียกลูกค้า :>

เมื่อวานซืน  คุณพี่ที่บ้านซ่อมหลอดไฟห้องน้ำค่ะ   หลอด+โคมเดิมใช้ไม่ได้แล้วต้องเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่  เอ็มโม่ก็ไปเก็บซากโคมไฟเก่ามาหน้าตาแบบนี้ค่ะ



เห็นของเหลือจะเอาไปทิ้งทั้งหมดก็เสียดาย  เอ็มโม่เลยขอแปลงร่างโคมไฟเล่น อิอิ

อุปกรณ์ที่เตรียมก็มีแค่นี้ค่ะ โคมไฟชิ้นที่เป็นฝาแผ่นกลม, ดินสอ, ปากกาเขียนซีดีตามรูป

ที่เหลาดินสอตัวเม่นไม่อยู่ในรายการ  แต่เห็นแล้วน่ารักเลยเอามาประกอบฉากค่ะ อิิอิ

ที่นี้ก็ลงมือร่างภาพตามใจ    งานนี้เอ็มโม่วาดเหมียวๆคับ



ร่างเสร็จ  พอใจแล้วก็ลุยต่อด้วยปากกาเขียนซีดีค่ะ
มีการลงยันต์เพิ่มเจิมเล็กน้อย อิอิ

เสร็จแล้วก็เอาไปติดฝาผลังแบบนี้ (เฉพาะฝา)  หรืออยากให้ภาพนูนขึ้นมาก็เอาฝาไปครอบฐานเดิมของโคมค่ะ  (แต่ควรเอาหลอดไฟ สายไฟเก่าทิ้งไปด้วยนะคะ  มันเป็นขยะมีพิษอย่าทิ้งไว้ในบ้านค่ะ)


แต่น แต๊นน   เสร็จแล้วก็เป็นแบบนี้...เอ็มโม่ได้รูปไปติดตรงของมุมเย็บผ้าและ D.I.Y.แล้ววว เย้




ดูๆไปก็สวยใช้ได้แฮะ  คิดเอาเองมามีดีไซน์ อิอิ :D


27 พฤศจิกายน 2554

ค่อยเป็น ค่อยไป

ปักไว้  ยังไม่เสร็จ  เหลืออีกนิดนึงแล้วค่อยประกอบร่าง อิ อิ

ผ่านมาสองเดือนแล้ว  …คงเป็นอันแน่นอนว่าบ้านเราน้ำจะไม่ท่วมแน่ๆ เหอ เหอ เหอ

ถือว่าเป็นโชคอย่างมากค่ะเพราะบ้านเพื่อนๆที่โดนน้ำกระหน่ำเข้าบ้านนี่ก็ ลำบากกันมากเลย  ทั้งต้องอพยพด้วย …แล้วพอกลับบ้านได้…เห็นสภาพบ้านก็เศร้ากับสภาพบ้าน สภาพของใช้ที่แช่น้ำนานจนเปื่อย

อาการพะว้าพะวงกับน้ำหมดไป  ทีนี้  พอเอ็มโม่ตั้งสติได้ก็ค่อยๆเคลียร์ของที่เพื่อนๆใจดีสั่งมา  ล่าสุด  เริ่มลงมือทำปกไดอารี่ลายกระต่ายที่เพื่อนรีเควสมาค่ะ

ปักผ้าเป็นวิธีที่เราเลือกจะใช้ทำรูปกระต่าย  แล้วก็กะว่าจะแอพลิเก้ส่วนดวงจันทร์กลมโตให้สีเน้นลายสดใส

ตอนนี้ทำไปได้ตามนี้ค่ะ …ก็ชอบสิ่งที่ตัวเองทำนะคะ แต่ในใจฝันไปแล้วว่าอยากทำงานปักผ้าให้มันแซ่บๆ  (ขอใช้คำนี้ละฮับ เพราะมันตรงใจ)  ให้มันสนุกยิ่งขึ้นเรื่อยๆ  และกล้าทำงานอย่างที่จินตนาการเพ้อเจ้อไปเรื่อยของเรา

ซึ่งมันคงเป็นจริงไม่ได้  ถ้าเราไม่ลงมือทำ…จริงไหมคะ

9 พฤศจิกายน 2554

D.I.Y. บู๊ทบ้านๆให้เก๋ไก๋ (เอา link มาฝาก)

ช่วงนี้่ เอ็มโม่นึกเรื่อง D.I.Y. ไม่ออกค่ะ  คงเพราะหมกมุ่นกับการป้องกันบ้านตัวเองและ “นอยด์” กับคำว่า “ท่วม”  “ไม่ท่วม”  “พื้นที่เสี่ยง” อยู่อย่างนี้ค่ะ…ประกอบกับต้องปรับตัวทำงานฟรีแลนซ์พากย์เสียงสื่อ Tablet ที่กินเวลาไปสามวันต่อสัปดาห์ด้วยเลยเย็บผ้าน้อยลงทั้งๆที่เปิดร้านแล้ว (ซึ่งก็ขายของเพื่อเอาสตางค์ช่วยน้ำท่วมไป  พอของหมดก็ยังไม่ได้เย็บตุนของใหม่—เป็นผู้ประกอบการที่เหลวไหลจังเลยนะคะ)


เมื่อไม่มี D.I.Y. ของตัวเองก็ขอเอางานน่ารักๆที่เจอมาฝากนะคะ


link นี้  เค้าตกแต่งบู๊ทธรรมดาๆซะดูดีขึ้นทันตาเชียว  ลองดูนะคะ  แค่มียาทาเล็บสีน่ารักๆ  เราก็แปลงร่างบู๊ทบ้านๆได้ซะเก๋ไก๋เลยเชียว   ^ ^

 D.I.Y. บู๊ทบ้านๆให้เก๋ไก๋จาก Pantip 


ใครเอาไปลองทำแล้วต่อยอดเป็นยังไงหรือชอบไม่ชอบยังไง  เอามาเล่าฝากกันด้วยนะคะ :)

2 พฤศจิกายน 2554

กลเม็ดเด็ดพรายในการ D.I.Y.เสื้อชูชีพช่วงน้ำท่วม

ในภาวะน้ำท่วมและข้าวของขาดแคลนแบบนี้ กลเม็ดเด็ดพรายในการ D.I.Y. ก็ช่างโชนแสง

ต้องขอบคุณเจ้าของไอเดียเหล่านี้ (และอื่นๆที่ไม่ได้เอามาโพส) นะคะ    สร้างสรรค์ออกมาแล้วก็ยังแชร์ความคิดนี้ให้คนอื่นๆอีก

อย่า่งอันนี้  เป็นอีกหนึงวิธีทำเสื้อชูชีพเองค่ะ
how to เสื้อชูชีพราคาประหยัดจากพระภิกษุณี


อันนี้  how t0 ทำเสื้อชูชีพจากเซเลบขวัญใจชาวบ้าน  คุณตัน อิชิตัน ค่ะ
how to เสื้อชูชีพจากคุณ ตัน ภาสกร

อันนี้ก็ดูตั้งใจทำค่ะ (จากในฮาวทู   มีคนช่วยแนะนำเพิ่มเติมนะคะว่าควรคว่ำขวดพลาสติคลง  เอาทางฝาขวดไว้ล่างแทนจะปลอดภัยกว่า)

วิธีทำเสื้อชูชีพจากใน Pantip


ที่จริงถ้าค้นหาจากอากู๋ Google ก็จะเจอเพียบเลยนะคะแถมมีวิธี D.I.Y. ด้านอื่นอีกมากมาย
ขอให้ความรู้จากทะเลความรู้โลกอินเตอร์เน็ตช่วยให้ทุกคนปลอดภัยจากทะเลน้ำท่วมนะคะ

27 กันยายน 2554

I can take your love with me

เวลาฝนตกพรำๆ   ใจมันก็มักฟุ้งซ่านหวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาผ่านไปในชีวิต  มีทั้งเรื่องของเรา  เรื่องของคนอื่นรอบๆตัวเรา

เป็นกันบ้างไหมคะ...


เย็นนี้ หลังจากกลับจากทำงาน (รับจ็อบเรื่อยเปื่อย)    ฝนก็ตกลงมาแบบพอเบาๆ   มีละอองเล็กๆโปรยลงหัวเราพอเป็นพิธีพอให้ได้ป่วย   แถมอากาศก็ชวนให้ซึม...ชวนให้นั่งจุ้มปุ๊กเปิดคอมพ์ดูรูปเรื่อยเปื่อย ... เปิดดูไปเรื่อยๆก็เจอรูปผ้าที่เราปักครั้งแรกเมื่อเดือนก่อน



ถึงงานชิ้นนี้จะเป็นภาพปักแบบฝีมือชั้นประถมของเรา  แต่ดีใจที่สุดที่ความรู้สึกขณะที่ปักผ้าชิ้นนี้ของตัวเองส่งต่อไปยังผู้รับได้

ขอบคุณเจ้าของผ้าชิ้นนี้ด้วยที่อนุญาตให้เราโพสรูปที่เป็นส่วนตัวเช่นนี้...

I can Take Your Love With Me

22 กันยายน 2554

D.I.Y. Do It Yummy ทำเองกินเองกับสปาเก็ตตี้ผัดเบคอนพริกแห้ง

D.I.Y. วันนี้ขอเสนอ...Do It Yummy ทำเองกินเองกับสปาเก็ตตี้ผัดเบคอนพริกแห้งนะค้าบบบ :D


ที่จริง เมนูนี้ไม่ยาก (ตามเคย) นะคะ  แต่ก็อยากเอามาฝากกันเพราะหลายๆคนพอเห็นเป็นสปาเก็ตตี้ก็ไม่อยากทำแล้ว  ไปกินที่ร้านข้างนอกดีกว่า


ล่าสุด เอ็มโม่ได้อานิสงค์ไปชิมสปาเก็ตตี้ที่ร้าน Audrey ตรงทองหล่อมา  อร่อยดี  (ร้านน่ารักดีด้วย...ลองนึกภาพร้านนะคะที่ตั้งชื่อมาจาก Audrey Hepburn ดาราหญิงที่มีสไตล์ที่แสนชัดเจนและยังคงเป็นสไตล์ที่ดูดีตลอดกาลค่ะ   หน้าตาร้านก็ออกมาแบบนั้น ดูคลาสสิคแต่ก็เก๋ในทีค่ะ)

แต่ถ้าจะไปกินที่ร้านบ่อยๆก็ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ ...ตังค์หดแน่ๆเลย >_<


ดังนั้น  วันก่อน เอ็มโม่ก็เลยทำเมนูนี้อีกครั้งค่ะ  ทำไป ถ่ายรูปไป  ก็ทุลักทุเลสนุกดี :P


เอาละ เรามาเริ่มทำกันแบบเอ็มโม่ โมๆมั่วๆเลยนะคะ

เครื่องปรุง

- เส้นสปาเก็ตตี้  ..... เลือกประเภทเส้นตามใจนะคะ  ถ้ามีเส้นสปาเก็ตตี้เหลืออยู่ในครัวก็เอามาใช้ได้ แต่สำหรับเอ็มโม่  เวลาเอามาผัด  เอ็มเน้นเป็นเส้นแบบเล็ก, ตรง ดีกว่าพวกเพนเน่หรือเส้นพาสต้าแบบเกลียวค่ะ  ส่วนตัวรู้สึกว่าเส้นแบบเกลียวหรือเพนเน่ เวลาทานกับพวกครีมซอสหรือซอสมะเขือเทศมันจะอร่อยกว่าเพราะตัวเส้นอุ้มซอสได้ดีค่ะ

- เบคอน  หั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กพอคำ  จำนวนตามชอบหรือตามกำลังทรัพย์ อิอิ

- กระเทียมปอกเปลือกแล้วสับหรือหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ
- พริกแดงหรือพริกแห้ง.....ตามชอบ  ถูกแล้วค่ะ ตามชอบ  ใครใคร่รสเผ็ดก็ใส่พริกเยอะหน่อยเอ็มชอบให้เผ็ดๆ  ถ้าใช้เป็นพริกแห้งมันจะหอมน้ำมันพริกด้วยนะคะ

- หอมใหญ๋  หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า   เอ็มกินแบบจุๆสองคนก็ใช้หอมใหญ่ลูกใหญ่ 1 ลูกค่ะ

-ซอสถั่วเหลืองหรือน้ำปลา


-เกลือป่นและน้ำมันพืชเล็กน้อยสำหรับใส่ในน้ำต้มเส้นค่ะ  เพื่อไม่ให้เส้นพันกันและมีรสปะแล่มๆ


วิธีทำ
1.  ก่อนอื่น  เพื่อเป็นการประหยัดเวลา  เราตั้งไฟต้มน้ำเลยนะคะ  ใส่เกลือป่นและน้ำมันพืชลงไปในน้ำเลย  


ระหว่างรอให้น้ำเดือด  เราก็จัดการหั่นเบคอน กระเทียม หอมใหญ่และพริกไปนะคะ



พอน้ำเดือดพล่าน  เราก็ใส่เส้นลงไปต้มค่ะ  ตรงนี้ถ้าเราใช้เป็นเส้นตรง  อาจจะหักครึ่งก่อนแล้วใส่ลงไปต้มหรือใส่ลงไปเลยแบบเส้นยาว  โดยกำเส้นตั้งไว้ แล้วหย่อนลงหม้อทีเดียว  เดี๋ยวมันก็ยุบลงหม้อไปหมดค่ะ

เรื่องเวลาของการต้ม  ตรงนี้  เพื่อนๆลองดูที่ฉลากที่แนะนำเวลาไว้นะคะเพราะแต่ละเส้นใช้เวลาต่างกันค่ะ   อย่างในรูปนี้เอ็มใช้เส้นสปาเก็ตตี้ยี่ห้อ Barilla  เค้าบอกว่าต้ม 11 นาที  ซึ่งเวลาที่บอกจะเป็นเวลาต้มเส้นให้สุกแบบแบบ Al dente ("to the tooth") นะคะ  คือสุกแล้ว เส้นจะไม่แข็งนัก  แต่ตรงกลางเส้นจะแข็งแบบที่เรียกว่าสู้ฟันแบบที่เราต้องออกแรงเคี้ยวบ้างค่ะ   เอ็มโม่ไม่ได้ชอบเส้นสุกแบบนี้ (เรียกว่าไม่คุ้นดีกว่า) ก็เลือกที่จะต้มต่ออีก 2-3 นาทีให้เส้นนิ่มขึ้น

ตอนต้มนี่  ตั้งเวลาไว้เลยก็ดีนะคะ  พอถึงเวลา เราก็เอาเส้นออกมาเทกรองน้ำออกแล้วราดน้ำเย็นลงไปบนเส้นเพื่อให้เส้นหยุดการสุกค่ะแล้วก็กรองน้ำออกให้เส้นสลัดน้ำออกไป


2. ตั้งกระทะให้ร้อน  พอกระทะร้อน ใส่เบคอนลงไปผัดพอให้น้ำมันจากเบคอนออกมา ตามด้วยกระเทียม พริก หอมใหญ่  ผัดพอเหลืองนิดๆก็เอาเส้นใส่ลงไปผัดค่ะ  เหยาะน้ำปลาหรือซอสถั่วเหลืองปรุงรสเค็มตามชอบค่ะ

แค่นี้ก็ออกมาน่ากินแล้ว แต่น แตน แต๊น

น่ากินไหมคะ อิอิ


ใครชอบรสชาติและสัมผัสของกระเทียม  จะโรยกระเทียมเจียวบนเส้นหน่อยก็ได้นะคะ  ทั้งหอม ทั้งได้สัมผัสกรุบกรับอร่อยลิ้นค่ะ

อร่อยจริงไหม  พิสูจน์ได้จากรูปนี้ค่ะ อิ อิ อิ (^____^)

12 กันยายน 2554

D.I.Y. จากแกนกระดาษทิชชู่เป็นแกนด้าย ง่ายจัง ^ ^

ดูตัวเลขวันที่ที่อัพบล็อคคราวที่แล้ว เอ็มโม่ต้องร้องจ๊าก  ...นี่เราไม่ได้อัพบล็อกงานฝีมือมาเกือบเดือนแล้วเหรอ


รู้สึกผิดจังค่ะ -_____-


แต่ที่หายไปก็หายไปทำงานเย็บๆมานะคะ (แก้ตัวพัลวัน งุงิงุงิ) เลยไม่ได้เข้ามาอัพเลยเพราะถึงอัพก็คงลงรูปได้อย่างเดียวค่ะ...มันไม่ตรงกับที่ตั้งใจไว้เลยต้องเก็บๆดองๆไว้ก่อน  วันนี้ได้โอกาสมาอัพเรื่อง D.I.Y. เพื่อเซฟเงินในกระเป๋าแบบง่ายๆเลยเอามาฝากกันนะคะ


เอ็มโม่เชื่อว่าที่บ้านสาวๆทุกคนคงมีแกนของกระดาษทิชชู่แบบม้วนเหลือกันมากมายจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไรแน่ๆ  วันนี้เอ็มโม่มีวิธีแปรรูปแกนทิชชู่มาฝากสา่วๆที่ชอบเย็บๆ ถักๆกันนะคะ


ก่อนอื่น  เราต้องตัดแกนทิชชู่ออกแผ่ให้กลายเป็นแผ่นแบบนี้ค่ะ




ต่อมาก็ร่างแบบเป็นรูปแกนด้ายแบบในรูปด้านล่างนี้ค่ะ  ส่วนขนาดก็ปรับตามที่เราคิดว่าเหมาะกับการใช้งานและวิธีเก้บของเราค่ะ  ถ้าใครเคยซื้อแกนด้ายกระดาษที่เค้าขายกันไว้แล้วก็เอามาเป็นแบบร่างได้นะคะ

(ข้อควรระวังนิดหน่อยคือตรงกระดาษของแกนทิชชู่มันจะมีรอยต่ออยู่  ตรงนั้นตัวกระดาษจะอ่อนนะคะ  เหมาะกับไว้ทำแกนด้ายที่เล็กๆมากกว่าค่ะ)




ร่างโครงเสร็จแล้วก็ตัดแยกออกมาเป็นชิ้นๆแบบในรูปเลยค่ะ  แต่แค่นี้มันไม่พอ  เราต้องตกแต่งหน่อยจะได้ดูคล้ายกับที่เค้าขายอันละ 5 บาทในเว็บนะคะ อิอิ


อุปกรณ์ที่ต้องใช้ก็แค่ตัวปั๊มที่เราจะแกะเองจากยางลบก็ได้  (แต่ที่เอ็มโม่ใช้เป็นตัวปั๊มที่ซื้อเก็บๆไว้ค่ะ) แล้วก็แ่ท่นหมึก เลือกสีตามชอบ...แต่ที่มันดูจะเข้ากั๊น เข้ากันคือสีดำหรือสีช็อคโกแลตนะคะ

ทำเสร็จแล้วก็ออกมาเป็นแบบนี้เลยค้าบ :)




ดูกันชัดๆว่าเอามาใช้งานได้ง่ายเลยค่ะ

แกนทิชชู่อันนึงทำแกนด้ายได้หลายอันเลยค่ะ  ทั้งประหยัด  ทั้งเป็นการนำของกลับมาใช้ให้คุ้ม...รักษ์โลกไปอีกทางด้วยนะคะ :)

22 สิงหาคม 2554

How-To : กระเป๋าเจ้าเหมียวแยกเขี้ยว ^ ^

ทำฮาวทูนี่มันต้องใช้ความตั้งใจจริงๆเลย (ขอขอบคุณทุกฮาวทูที่เคยดูมาเลย ณ ตรงนี้)  เพราะพอมาทำเองแล้ว  แหม  มันแสนยาก  ยิ่งตัวเองก็ไม่ได้มีความรู้จู้ฮุ๊กกกรูเรื่องเย็บนักยิ่งรู้สึกว่ามันยากค่ะ  แต่บอกมาหลายรอบแล้วว่าจะโพสก็ต้องโพส (ฮึดๆ)


กระเป๋าเหมียวแยกเขี้ยวอันนี้เป็นงานจากชุด Kit ของ Sewing Lovers' Club  (ที่ขายจักร Elna จักร Janome นั่นละคร้าบ)  เป็นชุด kit เบื้องต้นสำหรับมือใหม่  ที่ตอนแรกเอ็มทำก็ด้นๆทำตามวิธีในชุด kit ไปก็ออกมาเป็นกระเป๋าได้   แต่พอมือใหม่มีผู้รู้มาชี้แนะ  มือใหม่อย่างเอ็มโม่ก็สามารถทำกระเป๋าให้ออกมาสวยได้ค่ะ (ชมตัวเองอย่างไม่เกรงใจใคร ฮ่าๆๆๆ)


เข้าเรื่อง How To กันเลยดีกว่า  โม้มามากแล้ว อิอิ

1.  เริ่มแรก  เราก็ตัดผ้าตามขนาดที่จะเอามาเย็บกระเป๋านะคะ  มีชิ้นตัวกระเป๋า (ด้านหน้า,ด้านหลัง) ชิ้นซับใน (ของประเป๋าชิ้นหน้า,ชิ้นหลัง) , ใยโพลีเอสเตอร์, ผ้าสำหรับเย็บตกแต่งส่วนปาก เขี้ยว จมูก, ไหมปักสำหรับปักตกแต่งตา, หนวด  และก็ซิปขนาดตามตัวกระเป๋าค่ะ


2. ลอกแพทเทิร์นลงบนผ้าชิ้นกระเป๋าด้านถูก  โดยใช้กระดาษลอกลายสำหรับผ้านะคะเพื่อที่เราจะเย็บ ปักหรือตกแต่งได้ตามลายอย่างแม่นยำ

3. สอยตกแต่งส่วนปาก เขี้ยว และจมูกบนบนผ้าด้านถูกของกระเป๋าชิ้นหน้าค่ะ  

เคล็ดวิธี Applique ชิ้นงานให้ได้รูป  อย่างชิ้นปากเนี่ย  เราต้องเอาแพทเทิร์นชิ้นปากมาทาบกับผ้านะคะ   แล้วเย็บเนารอบๆแพทเทิร์น  อย่าเพิ่งตัดด้าย  เรารูดผ้ารัดแพทเทิร์นไว้  มันจะขึ้นรูปเป็นวงกลมตามแพทเทิร์นแล้วเราก็นำชิ้นผ้านี้ไปรีด  ค่อยๆแกะแพทเทิร์นออก...แต่น แต๊น  ผ้าชิ้นงานจะเป็นทรงตามแพทเทิร์นเลยค่ะ (เทคนิคนี้เรียกว่า English Paper Piecing ค่ะ) เสร็จแล้วเราก็ึดึงด้ายเนาออกอย่างเบามือ  แล้วสอยซ่อนด้ายชิ้นปากลงไปบนผ้า สอยให้ถี่หน่อยนะคะ เพื่อให้งานเรียบร้อย  


4. ชิ้นเขี้ยวเหมียวและชิ้นจมูกใช้วิธีเดียวกันค่ะ  แต่ถ้าเรามีกระดาษกาวแบบที่ใช้กับงานเย็บ (เป็น Fusible Paper แบบหนึ่ง)  มาช่วย  งานชิ้นเล็กๆอย่างตัวเขี้ยวแมวก็จะทำได้ง่ายขึ้น

ลองดูรูปนะคะ




ในรูป เอ็มเย็บจมูกเบี้ยวด้วยเลยต้องไปแก้อีกรอบค่ะ >_< 
5. สอยเสร็จตามรูป  ถ้าอยากให้ชิ้นงานดูสวยขึ้น  ในส่วนชิ้นงานปากเหมียวหรือจมูกเหมียว  เราต้องเซาะผ้าด้านหลังผ้าที่ appliqué ไว้ออกนะคะ  (ในที่นี้ ผ้าที่เราเซาะออก = ชิ้นผ้าของกระเป๋า)  โดยค่อยๆใช้กรรไกรปากแหลมเซาะผ้าส่วนนี้ออกค่ะ   (ขอโทษที่ไม่มีรูปค่ะ  ตอนทำกำลังมึนเลย)

6. เนาใยสังเคราะห์ติดกับผ้าชิ้นกระเป๋าที่ทำ appliqué เสร็จแล้วนะคะ  หลังจากนั้นก็ปักตากับหนวดเหมียว (ปักแบบด้นถอยหลังค่ัะ) ตามแบบที่ลอกลายไว้ค่ะ


7. เสร็จแล้วควิลท์รอบรอบงาน appliqué นะคะ  ตรงนี้จะไม่ทำก็ได้  แต่ถ้าควิลท์  ชิ้นงานที่เราแอพฯ (ขอเรียกแบบสั้นๆ) ก็จะดูเด่นขึ้นมา

8. เอาผ้าซับในที่ลอกลายตามผ้าชิ้นที่เราแอพฯไปมาประกบกับผ้าที่เราแอพฯไว้  หันผ้าด้านถูกเข้าหากันแล้วเย็บตามรอย เว้นช่องไว้กลับผ้าไว้ซัก 5-6 ซม. ค่ะ  
  




รอยปักเบี้ยวยุบยับเลย  ขออภัยมือใหม่นะคะ :P

9. นำผ้าตัวกระเป๋าชิ้นหลังที่ลอกลายไว้มาเนาติดกับใยสังเคราะห์   แล้วประกบผ้าด้านถูกกับผ้าซับใน (ด้านถูก) แล้วเย็บแบบเดียวกับผ้าชิ้นหน้า


10. นำชิ้นงานทั้งสองชิ้นมาตัดผ้าตามรอยที่เย็บไว้ (เหลือตะเข็บไว้ประมาณ 0.5 ซม.)  ตรงที่เป็นใยสังเคราะห์ควรเล็มให้ชิดรอยเย็บมากที่สุด (เฉพาะตรงใยนะคะ  ไม่เกี่ยวกับผ้าที่เราต้องเหลือตะเข็บ)     กลับผ้าด้านถูกออกแล้วสอยปิดช่องกลับผ้า (ทำแบบเดียวกันทั้งสองชิ้น)

แต่นแต๊น  เริ่มเป็นตัวเป็นตนแล้วนะคะ อิิอิ


11. เอากระเป๋าชิ้นหน้า,ชิ้นหลังมาสอยให้ติดกัน  เว้นช่องไว้สำหรับติดซิปตามขนาด


12. นำซิปมาสอยติดกับกระเป๋าให้เรียบร้อย (ถ้าใช้ซิปสำเร็จรูปก็ติดได้เลยค่ะ  แต่ถ้าใครใช้ซิปตัด  ต้องเย็บหุ้มปลายซิปทั้งสองข้างก่อนนะคะ---ตามรูป)



13. สอยเก็บริมซิปด้านในกระเป๋าให้เรียบร้อย----เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ค่ะ :D


 ขออภัยที่ฮาวทูภาพไม่ครบและก็ยาว ย๊าว ยาวนะคะ แต่ถ้าบอกขั้นตอนมาสั้นๆแบบในชุด kit เราก็คงต้องเดาเทคคนิคเอาเองเยอะเลยล่ะค่ะ :D

แต่งตัวรถเราเองแบบ D.I.Y.

D.I.Y.  ไม่ได้มีแค่การเย็บ ปัก ถัก ร้อย ...วันนี้ เอ็มโม่เลยเอารูปที่คนแถวๆนี้ปฏิบัติการณ์ D.I.Y. รถตัวเองมาฝากค่ะเผื่อใครจะได้ไอเดียแต่งรถตัวเองหรือต่อยอดไปทำอย่างอื่นนะคะ

พระเอกของวันนี้คือรถโตโยต้า อายุ 16 ย่าง 17 ขวบชื่อ "บูบู้" ค่ะ   บูบู้อยู่เป็นเพื่อนเดินทางกับคนที่บ้านเอ็มโม่มานานตามอายุของเค้าเลยนะคะ  พอเค้าผูกกันกันมานานขนาดนี้....นอกจากจะซ่อมบำรุงบูบู้ตามระยะแล้ว  บางทีเราก็เลยแต่งหน้าแต่งตัวให้บูบู้ใหม่บ้างด้วยความรัก ^ ^

ไอ้ครั้นจะเอาบูบู้ไปทำสปาขัดหน้าขัดตัว  งบประมาณเราก็หดเพราะเพิ่งพาบูบู้ไปเปลี่ยนโช้คกับเปลี่ยนยางมาทุกล้อค่ะ  บูบู้เลยถูกจัดการแต่งตัวตรงขอบยางรถ (เค้าเรียกกันอย่างนี้หรือเปล่า  ไม่แน่ใจนะคะ)  ซะใหม่แบบ D.I.Y. ลองดูรูปเลยนะคะ


ใช้สติกเกอร์ลาย kevlar ของ 3M มาทาบแบบก่อนอย่างในรูป  แล้วตัดให้ได้รูปทรงตามแบบ (แต่ก็ไม่แน่ใจว่าใช่ของ 3M จริงเหรอ  ทำไมไม่เห็นมีพิมพ์ 3M ที่ด้านหลัง  แต่คนขายเค้าบอกมา  เราก็พยายามเชื่อเค้าค่ะ :P~)



จากนั้นเราก็แปะๆ ติดๆ ขั้นตอนนี้ก็ต้องอดทนกันหน่อยค่ะ  ไม่งั้นสติกเกอร์จะไม่เรียบติดกับแบบดี  ส่วนที่เกินออกมาก็ค่อยๆใช้คัตเตอร์เล็มนะคะ  แต่ถ้าขาด  ช่วยไม่ได้ค่ะ  ทำใหม่โลดดด :P


ในรูปข้างบน  นอกจากคนที่บ้าน (โฟร์แมน)จะติดสติกเกอร์แล้ว  ยังมีท่านหัวหน้า ท่านแมวขาวมายื่นคุมงานด้วย :P

แล้วนี่คือผลงานที่เสร็จออกมาคร้าบบบ

เอ็มว่ามันพอใช้ได้เลยล่ะค่ะ ^ ^

สติกเกอร์ลาย kevlar อันนี้ก็ไม่ได้ถูกนะคะ  เมตรละพันนึงได้  แต่หน้าก็กว้างประมาณ 1.5 เมตรได้ค่ะ...ทำเองแบบนี้ช่วยเซฟค่าแรงได้บ้าง แถมได้ดูแลบูบู้ด้วยตัวเองอีก  เวลาผลงานออกมาได้อย่างใจ  คนทำก็ภูมิใจค่ะ

ฝากไว้เผื่อคนที่แวะมาอ่านจะได้ไอเดียไป D.I.Y. บ้างนะคะ  ติดสติกเกอร์แบบนี้ เอาไปลองแต่งของใช้ที่บ้านได้ตั้งหลายอย่างเชียว :D

15 สิงหาคม 2554

ของขวัญวันแม่ ^ ^

ช่วงวันแม่...วันสำคัญที่เราอยากถือเป็นโอกาสพิเศษที่จะได้บอกรักแม่แบบที่มีเพื่อนร่วมบอกรักกันในวาระนี้กันทั้งประเทศ  หลายๆคนก็คงพาแม่ไปกินข้าว  กินกันนอกบ้านในบ้านก็แล้วแต่สะดวก...บางคนก็ซื้อของขวัญให้แม่  พาแม่ไปเที่ยวบ้าง...ดูแล้วได้บรรยากาศที่น่ารักกันทั้งประเทศนะคะ

เอ็มโม่เอง  พอโตมาก็ยังไม่ค่อยจะกล้าบอกรักแม่หรอกนะคะ  แต่ชักกล้าแสดงออกมากขึ้นเรื่อยๆ  ยิ่งตัวเองย้ายออกมามีครอบครัวของตัวเองแล้วยิ่งไปกันใหญ่   เจอแม่เจอพ่อก็เลยต้องกอดแม่กอดพ่อทุกครั้งที่เจอกัน 

แม่หลายๆคนคงเป็นเหมือนกันที่ช่วงวันแม่แบบนี้ไม่อยากให้ลูกเสียตังค์ซื้อของแพงๆให้  หรือพอลูกซื้อให้ก็เอาไปเก็บไว้ (แถมรอวันที่จะให้ลูกคืนอีกแหน่ะ)  โอกาสแบบนี้  D.I.Y. ช่วยคุณได้นะคะ   เรามาทำของขวัญกันเองเล้ยย  รับรองว่าท่านแม่ได้รับแล้วต้องเอามาใช้ให้ลูกๆได้ปลื้มกันแน่ๆค่ะ

เอ็มโม่เองที่ฝีมือในโลกการเย็บผ้ายังมีแค่เต๊าะแตะเลยทำกระเป๋าที่ทำได้ไม่ยาก (แต่ต้องอึดสอยเก็บรอยต่อกระเป๋าให้สวยงามหน่อย) ให้แม่ค่ะ   กระเป๋าใบนี้ทำจากผ้าบล็อกแล้วเย็บควิลท์ตามรอยผ้า  ส่วนซับในเป็นลายจุดค่ะ  อ้อ  กระเป๋าเป็นกระเป๋าแฝดนะคะ เอ็มเย็บติดซิปลูกไม้ที่ใบนึง  แล้วอีกใบนึงทำเป็นแบบเปิดธรรมดาให้เก็บของได้ง่ายๆอ่ะค่ะ

ลองดูรูปนะคะ :)


ฝากระเป๋าสีอ่อน  น้องสาวเลยติงว่ากลัวจะเลอะง่ายค่ะ  แต่เราก็อยากให้แม่ใช้สีนี้อยู่ดี (ถ้าเลอะเดี๋ยวทำให้ใหม่เลยเฟร้ย---คิดในใจนะคะประโยคนี้ อิอิ)



เห็นอย่างนี้ใบไม่ใหญ่นักนะคะ  ใหญ่และกว้างกว่ากระเป๋าสตางค์แบบยาวของผู้หญิงไม่มากเลย

ฝากระเป๋าเปิดปิดด้วยกระดุมแม่เหล็กค่ะ  แอบสอยตัวห้อยรูปหัวใจบอกรักแม่ไปกลายๆด้วย  แม่จะเข้าใจไหมน้าาาาา  อิอิ :D





5 สิงหาคม 2554

ชวนกิน เอ๊ย ทำพายไก่ ^ ^



ขอแอบอู้ไม่โพสเรื่องงานฝีมืออีกครั้งนะคะ :>

แล้วนอกจากเรื่องงานฝีมือ เอ็มโม่จะเม้าท์เกี่ยวกับอะไรได้ล่ะคับถ้าไม่ใช่เรื่องกิน อิอิ

เมื่อวันก่อน เอ็มลองทำพายไก่กินเองค่ะ  ทำมันแบบด้นๆไปเป็น Chicken Pot Pie ที่ไม่มีสูตรกะเกณฑ์แน่นอนออกแนวแอบมั่วๆเอานิดหน่อยแต่อบออกมาแล้วก็อร่อยใช้ได้ไม่แพ้ร้านอย่าง S&P (ช่างกล้าพูด 555)

สูตรตามนี้นะคะ  (ดูแล้วจะรู้เลยว่าไอ้นี่มั่วจริง) :D



เครื่องปรุง  (ขนาด 5 คนกินอิ่ม  ใช้ชามอบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 นิ้ว  ก้นชามลึกประมาณ 2 นิ้ว)
  1. ไก่หั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าเล็กๆ ชอบส่วนอกก็ใช้อก ชอบส่วนสะโพกก็ใช้สะโพก (หรือจะใช้ไก่บดเลยก็ได้อย่าไปเครียด)  ประมาณครึ่งกิโล
  2. แครอทหัวใหญ่ๆ 2 หัว (จะใช้แครอทจีน แครอทไทย แครอทออสเตรเลียก็ตามแต่ใจและงบประมาณ) หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ
  3. หัวหอมใหญ่ขนาดเบิ้มๆ 2 หัว  หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ
  4. เนยจืดเล็กน้อย (ใช้สำหรับผัด  ถ้าบ้าคลั่งเนยเหมือนเอ็มโม่ก็ใช้เยอะหน่อยค่ะ)
  5. ซุปไก่ก้อน 1 ก้อน (ละลายให้เหลวด้วยน้ำร้อนประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ)
  6. ซีอิ้วขาวหรือซอสแมกกี้
  7. พริกไทยนิดหน่อย
  8. แป้งพัฟสำเร็จรูป (เอ็มซื้อที่แมคโคร  ราคาห่อละราวๆ 140 บาทหรือไงเนี่ยค่ะ  ข้างในห่อจะเป็นแป้งแยกเป็นแผ่นเล็กๆ 12 แผ่น  หรือที่วิลล่าซุปเปอร์มาร์เก็ตก็มีขายตาม นน.นะคะ)  เมนูนี้ใช้ 6-8 แผ่น 
  9. ไข่ 1 ฟอง  (ใช้สำหรับทาแผ่นแป้ง)

วิธีทำพายไก่แบบเอมโม่ (หมายถึงวิธีง่ายๆ ด้นมากๆนั่นเอง ;p)
  • เตรียมเครื่องปรุงไว้ให้พร้อม  แล้วเอาแป้งพัฟสำเร็จรูปออกจากช่องฟรีซมาพักไว้ก่อน
  • เริ่มอุ่นเตาอบ (Preheat) ไว้ที่ 200 องศาเซลเซียส
  • ตั้งกระทะให้ร้อน  ใส่เนยลงไป พอเนยละลายเอาหอมใหญ่ลงไปผัดให้พอหอม (อย่าเพิ่งให้หอมใหญ่เหลือง) ใส่แครอทกับไก่ที่หั่นไว้ลงไปผัด แล้วใส่ซุปไก่ก้อนที่ละลายน้ำไว้ลงไปเคล้าให้ทั่ว  ปรุงรสเพิ่มด้วยซอสแม็กกี้หรือซีอิ้วขาว  และพริกไทย  ชิมให้มีรสจัดกว่าปกติที่ชอบนิดหน่อย  พอสุกแล้วนำออกจากกระทะมาพักไว้
  • เอาแป้งที่พักไว้มาคลึงให้ทั่ว  (ถ้าไม่มีไม้นวดแป้งก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  คว้าขวดแม็กกี้มาคลึงแป้งก็ได้  แต่ขอให้ที่คลึงสะอาดเป็นพอ) 
  • กรุก้นชามอบพายด้วยแป้งที่เราคลึง 3-4 แผ่น  พยายามกรุให้ทั่วและรอบชาม
  • ตักไส้ที่ผัดไว้ลงในชามที่เรากรุแผ่นแป้งแล้ว 
  • ใช้แผ่นแป้งที่เหลืออยู่ปิดทับไส้พายในชาม  ปิดให้ทั่วชามอบแล้วทาไข่ดิบลงบนแผ่นแป้งให้ทั่วแล้วนำไปอบ...ใช้เวลาอบประมาณ 20-30 นาที ก็สุกพร้อมหม่ำ ^o^

 สูตรนี้ เอ็มทำเองกินเองก็ว่าอร่อยดี  แต่ของแบบนี้ลิ้นใครลิ้นมันนะคะ  บางคนอาจจะชอบให้ไส้รสจัดก็ปรุงรสเข้มหน่อย  ใครชอบแบบเนยๆเนียนๆก็เน้นเนยเพิ่มเข้าไป   ขอให้สนุกทำ อร่อยทานกันนะคะ ^ ^

1 สิงหาคม 2554

ชวนคุยในวันฝนพรำ ^ ^

วันนี้ เอ็มมาชวนคุยกันนะคะ  ...คนทำงานฝีมือหลายๆคนก็คงเหมือนเอ็มโม่คือก่อนที่่เราจะทำอะไรออกมา  เรามักจะได้สมญานามว่า "เจ้าแม่อุปกรณ์ดีเด่น" ก่อน  เอ็มก็เป็นค่ะ  แต่พยายามจะเลือกซื้อของเท่าที่ใช้จริงเท่านั้นเพราะกระเป๋าตังค์ยิ่งฟีบๆอยู่  (ไม่ได้ทำงานประจำแล้วนิต้องมีวินัย...ต้นเดือนก็ไม่มีเงินเดือนไว้ช็อปแล้วนะ  ท่องไว้ๆ  )



พูดไปเรื่อย  แต่เมื่อวันก่อน  มิสเตอร์ไปรษณีย์มาส่งของที่บ้านค่ะ ...เปิดมา  ก็เจอกับตัวห้อยซิปที่สั่งซื้อไปจากร้านเพื่อน (เื่พื่อนเอ็มเปิดร้านอยู่ใน facebook ชื่อ CrafeCafe ค่ะ) หุ หุ หุ...สอยมาเ้ก็บไว้ก่อนเพราะตอนไปสำเพ็งคราวหน้าคงไม่ได้แวะไปร้านที่ขายตัวห้อยซิปแน่ๆ



อ่ะ  เอารูปมาอวดกันดูกันเพลินๆนะคะ :)


ตัวห้อยอันนี้น่ารักมาก...ซื้อเก็บไว้ทำของขายค่ะ :>





บรรดาตัวห้อยซิป :)




รูปหัวใจนี้ก็น่ารักนะคะ  อันนี้  กะไว้ว่าจะใช้ตกแต่งของที่จะทำให้แม่น่ะค่ะ (จะเสร็จทันวันแม่มั้ยหนอ)



อันนี้ถูกใจมากๆ  ขนาดใหญ่กำลังดีด้วย...พอจะเอาไว้ทำซิปกระเป๋าฟลู้ทให้คุณชายที่บ้านได้  (โม้เรื่องกระเป๋าไว้เยอะ  ยังไม่แน่ใจว่าปีนี้จะทำเสร็จหรือเปล่านะคะ  555)


วันนี้  โพสเรื่องไร้สาระมากค่ะ...เอาเป็นว่าวันนี้ฝนตก อากาศครึ้ม...เหมาะกับดูของน่ารักๆเอ็มเลยเอารูปมาฝากกันนะคะ  (^___^)

30 กรกฎาคม 2554

ไปเรียนเย็บซะที...ดีจัง :D

จากบล็อคที่แล้ว  เอ็มกะว่าจะพยายามเข็น How-To กระเป๋าตังค์เมี๊ยวๆ ออกมาให้ได้   แต่ตอนนี้ขออนุญาตเปลี่ยนใจเพราะกระเป๋าใบเดิมที่ทำ....  ทุกขั้นตอนเอ็มอ่านจากวิธีทำและแพทเทิร์นในชุด kit แล้วด้นทำเองค่ะ


พอเอาชุด kit น้องเหมียวอีกอันนึง (ชุดนี้ก็ได้เื่พื่อนม้อยสอยมาให้เหมือนเดิมค่ะ) ไปทำที่ Sewing Lover Club ของบูธจักรเอลน่า/จาโนเม่แล้ว   เอ็มก็ได้เทคนิคที่จะช่วยทำให้ชิ้นงานสวยเรียบร้อยขึ้นไปอีก   ทีนี้ เอ็มเลยตัดสินใจว่าคงไม่ทำ How-To กระเป๋าตังค์เมี๊ยวๆ ใบเดิมแล้วล่ะ   มาเริ่มที่ใบใหม่ (ขอเรียกว่ากระเป๋าน้องเขี้ยว) ดีกว่า  คนที่ได้ผ่านมาอ่าน How-To  ก็จะได้รู้วิธีทำที่ดีกว่าอันเดิมที่เอ็มโม่ด้นเองนะคะ :)


พูดมายาว  ที่จริงกระเป๋าใบใหม่ก็ยังทำไม่เสร็จ แหะ แหะ :P


เพียงแต่ ตอนนี้ เจ้าส่วนชิ้นงานแบบที่ทำใหม่ขึ้นมามันสามารถเอามาเปรียบเทียบได้แล้วค่ะว่าการใช้เทคนิคที่เค้าสอนมันทำให้งานสวยขึ้นขนาดไหน  เอ็มเลยเอารูปมาเปรียบเทียบให้ดูกันแบบชัดๆนะคะ



จากรูป  วิธีทำแบบที่เค้าสอน  (คือ Appligue เสร็จแล้วเซาะร่อง -หมายถึงเจาะผ้าชิ้นหลัง ชิ้นก่อนซับใน/ใยโพลีฯทิ้งอ่ะค่ะ  จะทำให้ชิ้นงานมีมิติขึ้นมากๆ  โดยเฉพาะถ้าควิลท์รอบงานอีกที)





อีกวิธีที่เอ็มอยากทำให้ได้  คือทำยังไงให้ชิ้นงานได้รูปค่ะ  อย่างตรงปากเหมียว  เราอยากให้ชิ้นงานมันกลม  เอ็มสอยยังไง  พยายามแล้วพยายามอีกก็ยังไม่กลม.....วิธีทำมันง่ายกว่าที่เราคิดเยอะค่ะ  คือ  เค้าใช้วิธีเนารอบแบบ  ใส่แพทเทิร์นที่ตัดไว้ (เป็นพลาสติคแบบอ่อน/กระดาษแข็ง)แล้วเนารูดรัดให้ได้ทรงตามต้องการแล้วรีดให้เรียบ  นำมาสอย   ทีนี้ก็ออกมากลมดิ้กอย่างใจเลยค่ะ ---เป็นวิธีแบบ English Paper Piecing ตรงนี้ เดี๋ยวเอ็มจะถ่ายรูปมาให้ดูจะได้เข้าใจง่ายขึ้นนะคะ)





ดูกันชัดๆว่าชิ้นปากเหมียวที่สอยติดลงไปมันนูนออกมา...น่ารักดีค่ะ  ปลื้มๆ :D



 หนึ่งวันที่นั่งเรียนอยู่  ทำไปได้เท่านี้เองค่ะ...ไว้ประกอบชิ้นงานสำเร็จจะรีบรีบเข็น How-To พร้อมภาพประกอบมาฝากกันนะคะ :D



หมายเหตุ(ดังๆ)  ขอบคุณเพื่อนม้อยมากที่พยายามบอกหลายทีเลยว่าให้เอ็มไปเรียน (ซะที)  และก็ขอบคุณสำหรับชุด kit อีกครั้งด้วย  ^__^

21 กรกฎาคม 2554

กระเป๋าตังค์เมี๊ยว เมี๊ยว ...เดี๋ยวตังค์ก็เข้ามา :D



ไม่ได้อัพบล็อคหลายวัน  แต่ทำงานเย็บเสร็จไปแค่ชิ้นเดียว (เล็กๆ) -___-'

เนื่องจากเมื่อต้นเดือน เพื่อนม้อยไปงานสหพัฒน์ฯมาแล้วมีน้ำใจสอยเอาชุดคิทกระเป๋าตังค์แมวเหมียวในงานมาฝากให้เอ็มโม่ (ฝากมาสามอัน เพิ่งทำเสร็จไปอันเดียว แหะ แหะ)

พอเรารับมาก็รีบปฏิบัติหน้าที่อันพึงมีคือ เย็บ เย็บ เย็บ ....  งานนี้เย็บๆเลาะๆค่ะ   ไม่ค่อยอยากรีบและอยากหัดทำให้ได้ดังใจเยอะๆมากกว่า


ในที่สุด  ใช้เวลาเย็บบ้าง เล่นเน็ตบ้าง ทำงานบ้านบ้าง...เป๋าเหมียวก็เสร็จ  วู้ฮู้ :D


เอ็มเอามารูปที่เย็บเสร็จแล้วมากแปะตัวไว้ก่อนนะคะ  เดี๋ยวจะทำ how to (วาดเอา) มาฝากกันอีกที


เป๋าเหมียว :>






เก๋ไก่ด้วยตัวห้อยคิดตี้ ...แต่อันนี้เพี้ยนไปหน่อยเพราะเอ็มทำห่วงคล้องคิตตี้หักค่ะเลยต้องเย็บตัวห้อยซิปด้วยผ้าแทนแล้วเอาคิตตี้มาทากาวตกแต่ง




ผ้าทอนี่มันน่าใช้จังเลยน้าาาา




เอิ่ม มุมซ้ำ  เอาเป็นว่าดูที่ซิปแล้วกันนะคะรูปนี้ อิอิ




applique ยังไม่เนี้ยบค่ะ  ฝึกกันต่อไป ไอ้มดแดง(อ้วน)




มีเพื่อนใน FB บอกว่าตัวนี้เหมือน Totoro ค่ะ  เอ็มว่าหน้าเค้าดูเหวี่ยงๆเหมือนรถบัสแมวมากกว่า :P