14 มกราคม 2557

ประวัติศาสตร์ที่กินเข้าไปได้


เล่าไว้ใน aimmo ที่ wordpress แล้ว แต่ขอเล่าซ้ำในนี้นะคะ

ในครัว ฐานะของดิฉันมักจะอยู่ลำดับมือล้างจานที่บ้านแม่  หลังจากแต่งงาน-ย้ายมาอยู่กับคนรักกันสองคน ฉันก็ยังเป็นมือรองในครัวอยู่ดี

แต่ถึงจะเป็นมือรอง  เราก็ต้องหัดทำจานเด็ดไว้บ้าง :P

ช่วงแรกบ้านเอมโม่ก็ซื้ออาหารสำเร็จรูปมาแบ่งใส่ช่องฟรีซไว้ทยอยอุ่นกินเป็นมื้อๆนะคะ แต่หลังจากเราทั้งคู่เลิกทำงานประจำก็จัดสรรเวลาให้บ้านได้ดีขึ้น  เราอยากทำอาหารกินเองเพราะอยากประหยัด ขณะเดียวกันก็ได้กินอาหารมีคุณภาพ  ที่จริงพยายามปลูกผักกินเองด้วยค่ะ แต่ความที่วินัยต่ำ ตอนนนี้ที่บ้านเลยมีแค่ผักชีฝรั่งที่เติบโตขยายต้นดีกับโหระพาต้นเล็ก กะเพราสองต้นจิ๋วที่ยังไม่พร้อมให้เราเด็ดไปผัด

ได้แต่ปลอบตัวเองว่าค่อยๆเริ่มไปเนอะ  อย่าไปเครียด  ต้นอ่อนตายก็พยายามปลูกใหม่ซะ

อาหารจานเด็ดที่มือรองคนนี้พอทำได้ก็พวกต้มซุปไก่  ผัดสะบัดช่อที่ได้สูตรมาจากเว็บไซต์คุณพิมจากห้องก้นครัว  แต่มันก็ยังเด็ดไม่พอเพราะไม่ใช่อาหารโปรดคนร่วมบ้าน  มันเลยชวนให้ Self-Esteem ในส่วนนี้ตกต่ำ แพ้คู่ต่อสู้  (สามี) ค่ะ     บังเอิ๊ญว่าได้กะปิอร่อยมาจากแม่  นึกไปนึกมา “หมูผัดกะปิ” น่าจะเป็นจานเด็ดพอสูสีกับน้ำตกคอหมูของสามีได้เลยค้นอากู๋จนเจอสูตรของคุณชายกางแห่งพันทิป   เข้าทาง ลองทำดีกว่า

ระหว่างตำเครื่องก็นึกโรแมนติคกับเครื่องผัด เครื่องแกงค่ะ…พวกบรรดาพืชผักสมุนไพรนานาที่เอามาตำๆ ต่างกันไปตามประเภทผัดแกงนี่มันเป็นการส่งต่อการค้นพบค้นคว้าจากรุ่นสู่รุ่นลงมาเรื่อย   เป็นประวัติศาสตร์ที่กินเข้าไปได้  อิ่มเอมยิ้มแก้มปริกับประวัติศาสตร์นี้ได้ทันทีที่ได้กลิ่นหอมแล้วเคี้ยวกลืน

มือใหม่หัดทำอาหารเป็นเหมือนกันไหมคะ  โรแมนติคกับเรื่องแบบนี้ :>