26 พฤษภาคม 2556

กับข้าว กับแม่


วันอาทิตย์มักเป็นวันที่บ้านฉันทำกับข้าว   ทำสี่ห้าอย่างแล้วก็แพ็คใส่กล่องเข้าช่องแข็งไว้กินระหว่างสัปดาห์

อยากจะทำกินเองทุกๆวันเพื่อจะได้กินแต่ของสดใหม่เหมือนกัน  แต่ความคิดนี้ยังไม่สามารถเอาชนะความขี้เกียจทำอาหารระหว่างสัปดาห์ได้เลย  

พอฉันต้องทำอาหารกินเองและมี"ความขี้เกียจทำกับข้าว" เป็นของตัวเองอย่างนี้แล้ว...นึกถึงแม่ของตัวเองกับแม่แฟนขึ้นมาเลย...แม่ของเราทั้งคู่เป็นผู้หญิงทำงาน ทำงานหนักด้วย...แต่ก็กลับมาทำกับข้าวให้ลูกๆกินเสมอ     ทุกวันนี้ เวลาฉันกลับบ้าน  ฉันก็ยังอยากกินกับข้าวฝีมือแม่  แม่เองก็จะลงมือทำอาหารที่ฉันชอบและคิดเผื่อไปถึงคนรักของลูกที่มากินข้าวด้วยว่าชอบกินอะไร อะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้     ในบางครั้งที่เจ้าลูกชาย (น้องชายฉัน) พาเพื่อนมาบ้านหรือจะออกไปเจอเพื่อนคนที่เคยมากินข้าวที่บ้านแล้วปลาบปลื้มซุปหมูตุ๋นเห็ดหอมฝีมืิอแม่   ถ้าแม่รู้ แม่ก็จะต้มซุปหม้อใหญ่ตักใส่ถุงแบ่งไปให้เพื่อนลูกด้วย

ฉันซึ่งมีแต่พลังเฉื่อยอยากรู้จริงว่าคนเป็นแม่นี่ไปเอาพลังที่ไหนมากันนะ  

24 พฤษภาคม 2556

ตุ๊กตาที่ยังไม่เสร็จ

เวลาเด็กเล็กวิ่งเล่นจนล้ม  ถ้าไม่เจ็บตัวนัก เด็กๆจะลุกขึ้นมายิ้มหัวเราะแล้ววิ่งต่อไป

ความผิดพลาดในการเย็บตุ๊กตาของฉันก็เป็นแบบนั้น  พลาดแล้วก็หัวเราะ มอบรอยยิ้มให้โลกแล้ววิ่งต่อ...ฉันคิดแบบนั้นนะ

แต่สำหรับบางคน การลุกขึ้นมาหัวเราะไม่ใช่เรื่องง่ายอาจจะเพราะเขาจริงจังกับมัน  หรือเขากำลังอยู่บนลู่วิ่งแข่ง...ดังนั้น เราขำตัวเองได้ แต่จะขำคนอื่นก็คงต้องดูให้ดีก่อนเนอะว่าเขากำลังวิ่งเล่นหรือวิ่งแข่งอย่างบากบั่นอยู่บนลู่


คุยไว้แบบงงๆ ใน  wordpress-ตุ๊กตาที่ยังไม่เสร็จ ของฉันด้วย

19 พฤษภาคม 2556

กุหลาบ

สมัยเด็กๆ  ฉันไม่ชอบดอกกุหลาบ  ใครๆบอกว่ากุหลาบหอมจัง กุหลาบนี่ล่ะคือเทพีคนสำคัญของมวลดอกไม้ ฉันก็ไม่เชื่อ

สวนของย่าก็มีกุหลาบขึ้นแซมตรงนู้นตรงนี้หลายต้น  ทั้งที่ออกดอกสีชมพู  สีขาว สีแดง สีอมส้มโอลด์โรส  แถมมีดอกให้ฉันแอบไปดมอยู่บ่อยๆ  แต่ตอนนั้นดมเท่าไหร่ ฉันก็ว่ามันไม่เห็นจะหอมเลิศเลออย่างที่หนังสือบรรยายถึงดอกกุหลาบเลย  ดอกเข็มขาวซะอีกที่กลิ่นหอมเด่น  แม้แต่เข็มส้มเข็มแดงที่ตั้งเป็นกออ้วนๆอยู่รอบสวน-ไม่หอมแต่น้ำในเกสรดอกก็หวานอร่อยชะมัด

ถ้าไม่นับดอกกุหลาบสีม่วงในการ์ตูนเรื่องนักรักโลกมายา (หน้ากากแก้ว) และยัยกุหลาบปากแข็งในเจ้าชายน้อยแล้ว....ดอกกุหลาบไม่เห็นได้เรื่องเลย... ฉันคิด

น่าแปลกที่พอโตขึ้นเข้าสู่วัยสาว(ใหญ่)   ฉันกลับเลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นกุหลาบแต้มผิว  เริ่มสังเกตกลีบดอกที่ซับซ้อนและบอบช้ำง่ายของมัน  เริ่มชอบแบบไม่ค่อยรู้ตัว  จนกระทั่งฉันหัดวาดรูป...ฉันพบว่าดอกไม้ที่วาดเติมลงไปในภาพบ่อยครั้งที่สุดคือดอกกุหลาบ

กุหลาบแรกแย้ม  กุหลาบกลีบช้ำ กุหลาบที่แขวนตากไว้จนแห้ง  กุหลาบที่กลีบซับซ้อนเต่งตึง กุหลาบที่โรยราแห้งกรอบ...กุหลาบทุกช่วงวัยกลับสวยทั้งนั้นในสายตาฉันวันนี้



18 พฤษภาคม 2556

เช้าวันนี้ฝนตก

เวลาสายของวันหยุดที่ฝนตกพรำๆช่างเหมาะกับการดื่มกาแฟจริงๆน้าาา  ^_^


17 พฤษภาคม 2556

คนธรรพ์รำพัน

เริ่มวาดรูปนี้เมื่อสามสี่วันก่อนโดยวาดดินสอลงไปเฉพาะโครงหน้า ตา จมูก ปาก

ดูภาพตอนนั้นแล้วนึกไปถึงหน้ากินร กินรีในวัดและก็ละม้ายกันโครงหน้าของพระพุทธรูปด้วย

ฉันไม่ได้ตั้งใจวาดเป็นหน้าพระพุทธรูปแล้วมีนัยยะอะไรซ่อนอยู่ก็ยิ่งไม่อยากให้ใครมองไปแบบนั้น  (ไม่กลัวบาป แต่กลัวคนเข้าใจผิด...ถ้าเรามีประเด็นจะสะท้อนสังคมในเรื่องการนับถือ "ภาพ" หรือ "ร่าง" แทนตัวบทศาสนาก็ว่าไปอย่าง  แต่นี่ไม่มีก็ไม่อยากให้คิดไปไกล)

รายละเอียดที่เติมมาทีหลังเป็นรายละเอียดเล่นสนุกของฉันที่อยากลองวาดดูว่าคนธรรพ์ ชาวสวรรค์บางพวกน่าจะมีหน้าตาแบบไหน  จะมีรอยสัก รอยเจาะประดับตุ้มหู ตุ้มจมูกไหมหนอ

ระหว่างคิดไปก็ลงรายละเอียดไปเรื่อยๆ....สนุกเช่นเคย (คงเพราะเติมรายละเอียดไประหว่างดูน้องชายปล้ำผสมแป้งที่จะใช้ทำแผ่นนานไว้กินกับแกงกะหรี่ด้วยละมัง) ^ ^



เอาเพลงคนธรรพ์รำพันของแจ้มาลงด้วยไปด้วยดีกว่า  ดนตรีไม่เหมาะกับรูปนี้หรอกแต่เนื้อเพลงนี่อาจจะใช่นะ   อิอิ

4 พฤษภาคม 2556

สีไม้ colleen มันเข้มข้นสดดีจังเนอะ

กลับมาใช้สีไม้ระบายบ้าง


สีไม้ยี่ห้อ Colleen ดูจะเป็นสีไม้ในดวงใจของเด็กๆด้วยเนื้อสีที่เข้ม ราคาไม่แพง   ฉันเองมีสีไม้ (ระบายน้ำ) ยี่ห้อ Caran d'Ache รุ่น Swiss Color ซึ่งราคาแพงพอสมควร (รุ่นดีมากๆของสียี่ห้อนี้ราคาหลายพันบาทเชียว) ที่ซื้อไว้นานหลายปี  แต่ก็ยังชอบสีไม้ Colleen มากๆ เลยคงเพราะสีไม้เดิมที่มีเหมาะกับการระบายไล่ล้อเฉดสวยๆดูเบาและอ่อนหวาน  แต่ฉันซึ่งไม่มีทักษะอย่างนั้นและมักชอบระบายสีแบบเข้มข้นเลยได้ประโยชน์จากสีเดิมไม่ได้เต็มที่

เด็กๆที่ชอบสีสดและฉันที่มือหนัก พอใช้ colleen ก็มันส์เลย  บดสีกับกระดาษได้แบบไม่ต้องกลัวเปลือง :P

ถึงฉันจะระบายสีไม้แบบเบาๆฟุ้งๆไม่เป็นแต่ก็คิดจะหัดในสักวันนะ  รูปที่ใช้สีละมุนละไมมันน่ามอง  มองแล้วก็สบายใจดี

สำหรับฉัน คนที่วาดภาพแล้วน่ามองเพลินตากับคนที่วาดรูปสะท้อนอารมณ์ชวนให้คนดูรู้สึกตามก็เก่งเหมือนๆกัน    ยิ่งรูปที่นอกจากน่ามองแล้วยังสะท้อนอารมณ์ยิ่งเก่งเข้าไปใหญ่เลย ^ ^



2 พฤษภาคม 2556

สี Oil Pastel กับฉันในวัยเด็ก

ตลกตัวเองหน่อยๆเวลาย้อนคิดว่าสมัยก่อนไม่ชอบระบายสีด้วยสี Oil Pastel มากขนาดไหน  ทั้งที่ตัวเองสมัยเรียนอนุบาลเคยส่งภาพวาดประกวด (งานเล็กๆในโรงเรียนนั่นล่ะมัง  ตอนนั้นยังเด็กมากเลยจำรายละเอียดเรื่องนี้ไม่ได้ )

ภาพที่วาดส่งไปเป็นรูปเด็กกับใบไม้ร่วงตามพื้น  ในภาพปล่อยกระดาษพื้นหลังโล่งขาวเกินครึ่งหน้ากระดาษแต่ก็ได้รางวัลมาซึ่งไม่แน่ใจว่าเขาให้เพราะถูกใจภาพเราหรือให้เพราะฉันเป็นลูกอาจารย์ที่สอนในวิทยาลัยครูที่โรงเรียนอนุบาลตั้งอยู่ในนั้น)      ที่จำได้แม่นยำคือรางวัลที่ได้เป็นสีกล่องโต  น่าจะเป็นสีชอล์ก (แบบที่เราเรียกสี Oil Pastel ตอนเด็กๆ) ในกล่องบรรจุสีไล่เฉดมากมายชวนใช้  แปลกที่ฉันจำไม่ได้ว่าเอาสีไประบายอะไรบ้าง  แต่จำแม่นว่าถูกใจกล่องแต่ไม่ได้ชอบใช้สีนีี้เลยจนกระทั่งเรียนวิชาศิลปะครั้งสุดท้ายสมัยมัธยมต้น

ผ่านจากวันนั้นมานานหลายสิบปี  ภายในเวลาแค่เดือนเดียวที่ลองเรียนรู้กับสีไปนี้อีกครั้งในวัยสามสิบปลายๆฉันกลับตกหลุมรักจังเบ้อเร่อกับสี Oil Pastel

ที่สำคัญมากเลยคือสีนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองค่อยๆคลำหาแนวการวาดที่ชอบที่สุดได้ใกล้เข้าไปทุกทีและยิ่งอยากเรียนรู้ต่อไปอีกเรื่อยๆ :)