30 มิถุนายน 2554

ทำงานอย่างนี้มันไม่ productive เลยนะคู้นนนนนนน...

คราวที่แล้ว (คราวก่อนโน้นเลยคับ)  เอ็มโม่โชว์แบบร่างไว้...ลองทำไปแล้วยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ค่ะ  เหมือนมันยังขาดๆเกินๆ  เอ็มโม่เลยยังไม่เอามาแปะไว้ที่นี่


งานเก่ายังไม่เสร็จ  งานใหม่ก็เข้ามาแทรก (เอ๊ะ ฟังแล้วมันชักจะคล้ายๆคำพังเพยไทยอันนึงแฮะ)


................


เอ็มไปรื้อชุด kit ที่ซื้อไว้เหยียบเดือนมาทำค่ะ  เป็นชุด kit ซองใส่นามบัตรมาดามแคท  
เค้ามีแบบปักแบบ applique ให้อยู่แล้วก็ไม่ทำตามเค้าค่ะ    ด้นทำตามใจตัวเองซะงั้น


อันนี้ หน้าตาแบบปักของชุด kit ค่ะ  มาดามแคท :)


เกริ่นมายาว...ทำยังไม่เสร็จหรอกค่ะ แหะ แหะ


ผ่านไปเป็นวัน  เพิ่งเย็บ(สอย)ตัวชิ้นงานได้หน้าเสร็จเอง

อันนี้ที่เอ็มโม่ด้นเองตามผ้าที่ชุด kit ตัดแบ่งมาให้แบบน้อยนิด (ตรงดอกไม้ เอ็มเอาเทปผ้าที่มีอยู่เดิมปรับแต่งเพิ่มไปค่ะ  ก็เทปผ้าอันเดียวกับที่ทำหมอนปักเข็มนั่นล่ะคร้าบบบบ)



นี่ล่ะน้าาาาาาา  ที่นายเก่าเคยพูดว่าถ้าทำงานอย่างนี้มันไม่ productive เลยนะคู้ณ (>_<')

26 มิถุนายน 2554

หมอนปักเข็มง่ายๆจากถ้วยน้ำพริก เอ๊ยยย ถ้วยขนม :)

ก่อนที่เราจะเย็บอย่างอื่น  สิ่งแรกที่เราน่าจะเย็บไว้ใช้เอง (ในความคิดของเอ็มโม่)คือหมอนปักเข็มค่ะ

แหม  ไม่มีหมอนปักเข็ม  จะหยิบจะเย็บทำอะไรก็ลำบากนะคะ  ไอ้ครั้นจะใช้สตางค์ซื้อมาก็ ...แหมมมม... (ขอลากเสียงยาวหน่อยเหอะ)  ถ้ามันไม่สวยจริงก็ไม่อยากเสียตังค์เลยอ่ะค่ะ

เอ็มโม่เลยหาของเหลือใช้ในบ้านมาทำไปก่อน


คุ้ยๆค้นๆดูว่าอะไรน่าเอามาใช้ก็เจอนี่ค่ะ  ถ้วยพลาสติคที่ใช้ใส่ขนมหรือน้ำพริกขายอ่ะค่ะ (ไม่มีรูป before นะคะ  ทำไปนานแล้วเพิ่งจะเขียนบล็อก  ...ลองนึกถึงถ้วยพลาสติคใสเล็กๆที่มีฝาปิด  ใช้ใส่ขนมขายอ่ะค่ะ)

ล้างถ้วยสะอาด ผึ่งหรือเช็ดให้แห้งแล้วเราก็เอามาโมดิฟายกันแบบเอ็มโม่นะคะ

เริ่มแรก  เราหาเศษผ้าน่ารักๆที่เราชอบ (ตรงนี้อย่าไปสนใจความชอบหรือความเก๋กู๊ดในสายตาของคนอื่นค่ะ    ฉัน เท่านั้นค่ะ เพราะเราเองนี่ล่ะที่จะเห็นเจ้าหมอนนี่ทุกครั้งที่ทำงานเย็บ)

ได้มาแล้วก็เอามาวัดขนาด  กะให้ขนาดกว้างจากเส้นรอบวงของปากถ้วยพลาสติคออกมาอีกประมาณ 2.5 นิ้วค่ะ ...ขึ้นอยู่กับเราอยากให้ชิ้นงานมันอ้วนนูนขึ้นมาแค่ไหน ถ้าชอบให้มันนูนขึ้นมาเยอะๆก็เผื่อผ้าเพิ่มอีก รวมทั้งเผื่อเย็บไว้ซักประมาณ 1 ซม. นะคะ)

เอิ่ม...มันไม่ค่อยจะกลมเลยนะคะ  มองผ่านกันไปนะคะ อิอิ


 
เสร็จแล้วก็ตัดผ้าชิ้นฐาน   (อันนี้ไม่มีรูปให้ดูนะคะ ลืมถ่ายแหะๆ )   โดยผ้าชิ้นฐานก็วัดให้เท่ากับปากถ้วยแล้วเผื่อเย็บอีก 1 ซม.

ทีนี้เราก็เอาด้านถูกของผ้าหันหน้าเข้าหากัน  เย็บเนาให้ถี่ให้รอบเว้นเผื่อช่องไว้กลับผ้าและยัดใยโพลีเอสเตอร์ประมาณ 3 ซม. ค่ะ


(ไอ้ตรงนี้จะยุ่งยากหน่อยนะคะ  เพราะผ้าสองชิ้นเค้าต่างขนาดกัน ต้องขยับเขยื้อนผ้าต้องเย็บไปเรื่อยๆให้ประกบได้รอบ)

ที่จริง...ตอนเอ็มโม่ทำ เอ็มโม่ยัดสำลีค่ะเพราะไม่มีใยโพลีฯ  -_-‘)

มันก็อารมณ์เหมือนยัดนุ่นน่ะค่ะ  แต่เวลาใช้มันจะปักเข็มยาก  ใช้ใยโพลีฯแล้วจะมีประสิทธิภาพมากกว่านะคะ  ใครมีเศษใยก็ใช้ใยโพลีฯก็ดีอยู่แล้วนะคะ

ทีนี้พอกลับผ้าเอาด้านถูกออกมาก็ยัดใยโพลีฯเข้าไปให้แน่นเต็ม  ขยับรูปทรงให้สวยงามแล้วเราก็สอยผ้าปิดช่องให้เรียบร้อย

ยังค่ะ  ยังไม่เสร็จ  ถ้ามีแถบลูกไม้อยู่  เราจะตกแต่งเข้าอีกหน่อยก็ได้ตามขอบ  พอเสร็จตรงนี้แล้ว  ใครอยากเอาชิ้นงานทากาว (ใช้ปืนกาวเลยค่ะ สะดวกและติดแน่นดี) แล้วแปะติดฝาเลยก็ได้นะคะ



ส่วนตัวถ้วย  ถ้าอยากให้มันใสเหมือนเดิมเพื่อที่เวลาเราใส่ของ(เช่นเข็มกลัด หรืออุปกรณ์ตัดเย็บอื่นๆ) ไว้ข้างในแล้วมองเห็นได้ง่ายก็ถือว่าหมอนปักเข็มเสร็จแล้วนะคะ

แต่เอ็มโม่อยากจะกลบเกลื่อนรอยเย็บที่ไม่เรียบร้อยเลยแต่งเพิ่มอีกนิดค่ะ ด้วยไอ้นี่ แต่น แต้น...

เทปนี้ ซื้อมาในราคา 10 บาทจากกองของเซลล์ที่ร้าน 60 บาทที่สุขุมวิท (ซอยที่มีร้านราเม็งเท Ramen Tei อ่ะค่ะ  จำไม่ได้ว่าซอยสามสิบเท่าไหร่  อยู่เยื้องกะเอ็มโพเรียมอ่ะคับ)

 
เทปผ้าค่ะ (พวก Masking Tape อ่ะค่ะ)   เอามาพันแปะรอบถ้วย  เติมสีสันให้ถ้วยหมอนปักเข็มอีกตั้งเยอะค่ะ :D

 แปะเทปแล้วหน้าตาจะเป็นอย่างนี้นะคะ





 
แล้วนี่หน้าตาหมอนที่โมดิฟายแล้วค่ะ

หวังว่าคงถูกใจนะคะ (^ ^)




23 มิถุนายน 2554

แบบ...จะเป็นจริงได้มั้ยหนอ

นั่งมาจนเย็น..ยังไม่ได้เย็บอะไรเล้ยยย นอกจากได้แบบเตรียมเย็บ
มีแบบแล้ว...แล้วจะเย็บตามนี้ได้มั้ยหนอ....

ผ้า ผ้า ละลานตาในสำเพ็ง


เมื่อสองวันก่อน เอ็มโม่ไปสำเพ็งมาค่ะ

เดินดูของในตรอกตรงหลังคาเขียวที่คนในพันทิปเค้าแนะนำกัน...ทางยาวแค่ไม่กี่ร้อยเมตร...แต่เดินไปซะห้าชั่วโมง ตั้งแต่เที่ยงยันห้าโมงเย็น..เหนื่อยแฮ่กเลยค่ะ แต่ตอนเดินก็ไม่รู้ตัวหรอก  มาเริ่มหอบแฮ่กๆก็ช็อปเสร็จแล้ว

แล้วมันก็อย่างที่เค้าว่ากันจริงๆ...

ขนาดเอ็มโม่จดช็อปปิ้งลิสท์ไปอย่างดี   แต่ในที่สุด เราก็ได้ของที่ไม่ได้ตั้งใจมาซื้อเลยจนได้... เหมือนอย่างที่สาวๆคนอื่นที่ไปเดินสำเพ็งมาเล่าในพันทิปไม่มีผิด

ลองมาดูของที่เอ็มโม่สอยมากันนะคะ หุ หุ หุ

มาเป็นกองพะเนิน  แบกของกันเป็นพี่กรรมกรเลยเชียว



ส่วนเส้นหนังหลากสี...อันนี้ไม่ได้คิดว่าจะซื้อ  แต่เห็นแล้วอดไม่ได้เลย  เสียตังค์จนได้ (เส้นหนังนี้ซื้อเหมาโหลแบบคละสีได้ในราคา 60 บาทนะคะ)


อันนี้ผ้าตัดแบ่งขายชิ้นเล็กๆค่ะ




ชอบผืนนี้เป็นพิเศษ สีขรึม ลายสวย

 เทปลูกไม้..อันนี้ตั้งใจไปซื้อมากๆ และยังอยากได้อีก (...ใช้ของที่มีให้หมดซะก่อนเถิดไอ้โม่ เฮ้ออ -..-)





ปิดท้ายด้วยภาพรวมเซ็ต


สอยมาขนาดนี้  ถ้าไม่ทำอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน  ความรู้สึกผิดต้องตามมาหลอกหลอนแน่ๆเลยค่ะ ฮึ่มๆ

20 มิถุนายน 2554

สวัสดีชาวโลกกับกระเป๋าผ้าใบแรก :)

สวัสดีชาวโลก :)

เขียนบล็อกมาหลายปี ครั้งนี้เริ่มต้นเขียนยากที่สุดเลยค่ะเพราะตั้งใจไว้ว่าบล็อกตัวเองที่ blogspot อันนี้จะเป็นบล็อกที่เน้นไปในเรื่องงานฝีมือ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากมีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ชอบงานฝีมือได้มาคุยกันในบล็อกนี้

พูดมาเหมือนตัวเองเก่งงานฝีมือซะเต็มประดา :P
ที่จริง  เอ็มโม่เพิ่งกลับมาจับงานฝีมือได้แค่เดือนกว่าๆหลังจากหย่าขาดกับงานฝีมือไปตั้งแต่มัธยมสอง  ...โอ้ว...นับนิ้วดูระยะเวลา...มือสองข้างบวกมือข้างล่างก็ยังไม่พอนับปีได้ครบค่ะ...แถมตอนที่เรียนงานฝีมือก็ไม่ได้เก่งอะไร...ด้นถอยหลังทำยังไง สอยซ่อนด้ายทำยังไงมันก็ลืมเลือนไปเต็มที 

ทำไมถึงกลับมาทำน่ะเหรอคะ...อืม...คงเพราะตัวเองชอบสิ่งต่างๆที่ทำด้วยมือและชอบประดิษฐ์ด้วยมือมานานแล้ว  และถึงไม่ทำงานฝีมือเย็บปักผ้าร้อย  เอ็มโม่ก็วาดภาพเล่นเริงรื่นด้วยมือนี้มาอยู่มาตลอดสามสิบปีกว่าปี...อีกสาเหตุหนึ่งคงเพราะเอ็มหลงใหลผ้าด้วยมั้งคะ...ความหลงใหลและความรัก...บางทีมันก็เกิดขึ้นทั้งๆที่เราไม่ได้รู้จักคนๆนั้นหรือสิ่งของเหล่านั้นดีใช่มั้ยคะ  แต่ความรู้สึกเรียบลื่น นุ่ม แข็ง กระด้างที่แตกต่างของผ้าแต่ละชนิด  เส้นสายลายทอที่ขมวดกันเป็นผืนผ้าชิ้นหนึ่งขึ้นมา...เราสัมผัสได้นี่นา

เม้าท์มานาน  เอ็มโม่เอางานเย็บผ้าชิ้นแรกหลังจากที่ไม่ได้เย็บอะไรเลยแม้แต่น้อยมานานมาอวดดีกว่าค่ะ

ของชิ้นนี้... เอ็มโม่ทำขึ้นเพื่อเป็นของขวัญวันครบรอบแต่งงานค่ะ...งานก็ไม่ได้สวยไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ด้วย  แต่ใช้หัวใจทำจริงๆนะคะ :)



 ที่ปิดตา...เอ็มลองเปิดดูหนังสือแล้วปรับทำเท่าที่สามารถค่ะ...แต่ออกมาก็อย่างที่เห็น ตรงกลางยู่เชียว อิอิ



 กระเป๋าผ้าใส่ของ...ก้นกระเป๋าเบี้ยวนิดๆด้วยค่ะ แต่ใบนี้ เอ็มไม่ได้เย็บใยสังเคราะห์เป็นซับในด้วย  เวลาใช้ก็เลยดูไม่ออกว่าเบี้ยวค่ะ (เฮ้ออ  รอดตัวไป ;p )




พะยี่ห้อกันนิดนึงค่ะ  เผื่อจะดูเก๋กู๊ดเป็นของมีราคาแพงขึ้นมากะเค้าบ้าง :)

คราวหน้า เอ็มจะเอาของที่หัดทำมาแชร์ไว้ในนี้อีกนะคะ  เผื่อใครผ่านมาเห็นบล็อกนี้แล้วอยากเม้าท์กันเรื่องงานฝีมือจะได้มีเรื่องมาคุย (และให้เอ็มโม่ปรึกษา) นะคะ

ทักทายกันบ้างนะคะ  ถ้าแวะผ่านมา :)