เคยเล่าเรื่องไว้ใน http://whitemomo.multiply.com (May 16, 2008)
'Once there was a tree...and she loved a little boy.'
ใน
บล็อกที่แล้ว
เพื่อนเคนเน็ธบอกว่าไม่ชอบอ่านตัวหนังสือ...ชอบดูภาพมากกว่า...หนังสือภาพ
เป็นสิ่งแรกที่เอ็มนึกถึงก่อนที่จะนึกถึงรูปถ่ายดีๆที่แทนคำนับล้าน
...และ
หนังสือภาพเล่มแรกที่เอ็มคิดถึงคือหนังสือเล่มนี้ค่ะ...หนังสือที่เอ็มกับ
เค้าทำความรู้จักกันครั้งแรกเมื่อเกือบสิบปีก่อน...และการทำความรู้จักกัน
ครั้งแรกก็เป็นการยืนอ่านหนังสือเล่มนี้ (ซึ่งยังไม่ได้ซื้อ)
ที่ร้านคิโนะคูนิยะ
สาขาอิเซตัน....เราทำความรู้จักกันด้วยภาษาไทยก่อนด้วยฉบับแปล....และด้วย
น้ำตาที่ไหลแบบต้องหลบซ่อนกลางร้านหนังสือในทันทีที่เรารู้จักกันแค่ 2 นาที
หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อคนแต่ง...แต่ถ้าพูดถึงหนังสือ The Missing Piece หรือ The Missing Piece Meets the Big O เรื่องของวงกลมแหว่งๆที่ตามหาสิ่งที่ขาดหายมาเติมเต็ม และเรื่องของสามเหลี่ยมแล็กๆที่ลองพยายาม”ฟิต”กับหลายสิ่งที่ผ่านมาบนทางของเขา....คิดว่าหลายคนคงนึกออก เพราะเมื่อหลายปีก่อน หนังสือ 2 เล่มนี้โดยเฉพาะ The Missing Piece ถูก
แปลงแล้วส่งต่อผ่านอินเตอร์เน็ทไปทั่ว...เรื่องราวของวงกลมเว้าแหว่งกินใจคน
เกือบทุกคนที่กำลังตามหาใครซักคนหรือที่ใดซักที่ซึ่งจะเติมชีวิตให้สมบูรณ์
...แต่ The Giving Tree ไม่ใช่เรื่องราวแบบนั้นค่ะ ;-)
...ไม่รู้ว่าเพราะลายเส้นที่ชัดเจนและถ้อยคำ “น้อยแต่มาก” หรือเปล่า The Giving Tree เลยถูกตีความไปหลายอย่างตามแต่ว่าเราจะจินตนาการว่า The Tree คือ
ใคร คืออะไร
....เอ็มเองอ่านหลายรอบ...หลังๆก็ตีความมันต่างไปจากเดิมได้เรื่อยๆ...แต่
ความรู้สึกแรกที่ได้อ่านน่าจะเป็นความรู้สึกสุดพิเศษที่ทำให้รักหนังสือเล่ม
นี้มาตลอด
The Giving Tree มีเรื่องราวสมชื่อค่ะ...ต้นไม้ที่มีแต่ให้...
ลอง
หาอ่านกันดูนะคะ...แล้วเราจะพบกับความรักที่มีแต่ให้...ความรักที่ล้นออกมา
จากภาพลายเส้นไม่กี่หน้า...ถ้อยคำไม่กี่ประโยคซึ่งพิสูจน์ให้เห็นพลังของภาพ
และความสามารถของนักเขียน....แล้วเรามาลองคุยกันดูดีกว่าว่า เราคิดว่า The Tree คือใคร...และ The Boy ในเรื่องนั้นคือใคร...ถ้าอ่านฉบับภาษาอังกฤษไปเลยจะยิ่งดีค่ะ...ภาษาที่ใช้ไม่ยาก (เพราะยาก เอ็มก็คงอ่านไม่ได้ ;p )
วันนี้
ของทุกปีเป็นวันพิเศษของเอ็มค่ะ...เลยอยากเขียนถึงเรื่องนี้...เพราะวันนี้
เป็นวันที่เตือนให้เอ็มนึกถึงความรักมากล้นของ The Giving Tree ของเอ็ม ^__^”
...ถ้าสนใจหนังสือของ Shel Silverstein ....ก็
ลองทำความรู้จักเค้าผ่านเว็บไซต์นะคะ...เพราะเว็บไซต์นี้พิเศษตรงที่เราจะ
ได้ลองอ่านหนังสือภาพของเค้า 2-3 หน้าแรกแบบเคลื่อนไหวได้ด้วย...เสียดายแต่
Shel เสียชีวิตลงแล้วค่ะ โลกจึงขาดคนที่สร้างสรรค์ลายเส้นและเรื่องราวกินใจผ่านหนังสือและบทเพลงไปอีกคน (คนที่รักเสียงเพลงอาจจะรู้จักเค้าในอีกมุมนะคะ ....เพราะ Shel Silverstein เป็นคนแต่งเพลงชื่อ A Boy Named Sue ที่ขับร้องโดย Johnny Cash ค่ะ)
2 ความคิดเห็น:
อ้อยเจอเล่มนี้ตอนออกจากงานใหม่ๆ
จำได้ว่าทำไมเจ้าเด็กคนนี้ถึงนิสัยแบบนี้นะ
แต่หลังจากผ่านไปหลายปีเอามาดูใหม่
ไม่สนเด็กแล้วล่ะ ^^
เห็นแต่ต้นไม้ใจดี
มันแสบสันต์นะเรื่องนี้ คนที่ดูแลต้นไม้ดีสมกับที่เขาใจดีก็จะรู้สึกแบบอ้อยซัง
แต่คนที่ทำตัวแบบเด็กชายคนนี้ก็คงได้จุกอกกันบ้างล่ะ
แสดงความคิดเห็น