หลังจากการ”ดอง” หนังสือเล่มนี้ไว้บนชั้นเกือบห้าปี ในที่สุดฉันก็เริ่มอ่าน อ่านไปเรื่อยๆตั้งแต่เริ่มงานสัปดาห์หนังสือฯจนจบก่อนงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติสิ้นสุด
ในช่วงแรกของ “เบล แคนโต้ “
ฉํนต้องฝืนตัวเองให้อ่านนิยายเรื่องนี้ไปตามจังหวะที่เนิบนาบ บทบรรยายของผู้แต่งดำเนินไปในจังหวะที่ฉันไม่นิยมนัก แต่พอได้ทำความรู้จักกันไปสักสามสิบหน้า ฉันก็เริ่มคุ้นเคย....สายตาและความคิดฉันก็เต้นเข้ากันกับจังหวะเนิบนาบละเมียดละไมนี้
เบล แคนโต้
เริ่มเรื่องด้วยบรรยากาศในงานเลี้ยงวันเกิดแขกคนสำคัญของประเทศประเทศหนึ่ง
ในงานเต็มไปด้วยสิ่งหรูหราสวยงามที่ระดมมาตกแต่งในงานเพื่อหวังจะให้แขกชาวญี่ปุ่น
ผู้เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ประทับใจและหันมาลงทุนในประเทศยากจนแห่งนี้ นักร้องโอเปร่าสาวผู้โด่งดังที่นักธุรกิจใหญ่ผู้นี้ชื่นชอบได้รับเชิญมาร้องเพลงในงาน สิ่งสวยงาม...บทเพลงไพเราะจับใจเคลือบสีสันให้งานเลี้ยงนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริง แต่แล้วผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งได้แฝงเข้ามาในงานและจับตัวทุกคนเป็นตัวประกัน
ตัวประกันจำนวนหลายร้อยคนมันมากเกินไป ผู้ก่อการร้ายจึงปล่อยตัวประกันส่วนใหญ่ไป เหลือไว้แต่คนสำคัญที่ใช้ต่อรองได้ แต่แล้วการต่อรองที่ผิดแผนนั้นก็ดำเนินยืดเยื้อไปกว่าสี่เดือน
เราคาดหวังว่าเวลากว่าสี่เดือนนี้...ภายในบ้านหลังใหญ่ที่จัดงานเลี้ยง....ชีวิตของตัวประกันซึ่งมีทั้งนักธุรกิจ
ล่าม นักร้อง
นักการเมืองกับผู้ก่อการร้ายที่มีผู้นำกองกำลังเป็นนายพลไม่กี่คนกับเด็กที่อายุเพียงเพิ่งแตกหนุ่มและสาวน้อยที่ซ่อนใบหน้าสวยหวานไว้ใต้หมวกและชุดทหารจะดำเนินไปอย่างไรกัน
แน่ละ...
ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันระหว่างผู้ก่อการร้ายและตัวประกัน
ความตระหนักถึงชีวิตของตนเองเมื่ออยู่ภายนอกกำแพงที่ขังไว้กับชีวิตภายในรั้วกำแพงในฐานะตัวประกัน...รวมไปถึงความรัก ความรู้สึกทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่ผ่านเข้ามาในทุกชีวิตของตัวละครจนตัวละคร
(และคนอ่านเอง) ก็เคลิ้มไปกับเรื่องราวในกำแพงนั่นและอยากให้ทุกอย่างในกำแพงนั่นยังคงเป็นของมันอยู่อย่างนั้น
ไม่เปลี่ยนแปลงไป
แต่ความเป็นจริงบนโลกใบนี้ มันยอมให้เราเป็นอย่างที่เราหวังหรือ...นั่นเป็นสิ่งที่คนอ่านต้องพบคำตอบเองจากหนังสือนิยายเล่มนี้ที่เขียนโดยแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จับตัวประกันในประเทศเปรูเมื่อปี
ค.ศ. 1996
ที่เราเรียกได้ว่าเรื่องราวการจับตัวประกันในนิยายแทบจะถอดมาจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเลยทีดียว ผู้แปลเล่าว่าเมื่อเธอค้นหาข้อมูลเพิ่ม เธอพบว่าในฉากจบ ในสนามฟุตบอลที่มีภาพเด็กผู้ชายเล่นฟุตบอลกันอยู่นั้น มันเหมือนกับเหตุการณ์จริงเลยทีเดียว
เบล แคนโต้ : อุบัติรักข้ามขอบฟ้า หรือ Bel Canto
ในฉบับภาษาอังกฤษ (ที่มาจากภาษาอิตาเลียนที่แปลว่าการขับร้องที่ไพเราะ)
Ann Patchett :
เขียน
จิตราภรณ์ วนัสพงศ์ : แปล
แพรวสำนักพิมพ์ , 2547
หมายเหตุ : เหตุการณ์จับตัวประกันในเปรูครั้งนั้น อ่านเรื่องราวแบบไม่เจาะลึกได้จาก link นี้ค่ะ
http://en.wikipedia.org/wiki/Japanese_embassy_hostage_crisis
http://en.wikipedia.org/wiki/Japanese_embassy_hostage_crisis
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น